ไฟที่น่าเศร้าใจที่สุด คือไฟในใจของคนไทย
สิ่งที่แย่ที่สุดคือ ทุกคนไม่พยายามเข้าใจซึ่งกันและกันเลย ผู้ชุมนุมไม่ได้ดูสื่ออื่นเลย คนกรุงเทพฯก็พยายามในการเชียร์ให้รัฐบาลสลายโดยเหมือนแกล้งไม่รู้ว่าธุรกิจ รอบด้านจะเสียหาย รัฐบาลก็บอกล่วงหน้าว่าผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อการร้าย (ทำให้ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ) แกนนำหลายคนที่มาจากต่างจังหวัดและไม่ใช่แกนนำสาย”นักเคลื่อนไหว”แต่เป็นแกน นำสาย”นักการเมือง”ก็ปลุกปั่นผู้ชุมนุมให้ฮึกเหิมเพื่อไม่ให้อยากกลับ แนวคิดของแกนนำสวนทางกับแนวทาง จึงสร้างสะสมความรุนแรงให้มากขึ้น คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อยากสร้างความรุนแรงก็เข้าร่วมเรื่อยๆ ( แต่ไม่สามารถก่อเหตร้ายได้เพราะแกนนำยังรับผิดชอบอยู่ ) การปิดกั้นสื่อทุกทางทำให้ ผู้ชุมนุมขยายอาณาเขตไปทางสีลม และทำให้เกิดการยั่วยุกับกลุ่มคนสีลม มีการระแวงบุกโรงพยาบาล/BTS ทำให้รัฐออกสื่อ และเกิดความเกลียดชังต่อเนื่อง มีกลุ่มม็อบหลากสีและม็อบพันธมิตรออกมาและได้ออกโทรทัศน์ ทับถมทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ Timeline ของ ทวิตเตอร์และ facebook เต็มไปด้วยข้อความเสียดสี หยาบคาย ดูหมิ่น และอ้างถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นปช.ที่อยู่ต่างประเทศไม่สนใจ นปช.ในประเทศด้วยการออกสื่อและข้อความที่ล่อแหลมตลอดเวลา ฯลฯ
การเจรจาจะเกิดขึ้นหลายครั้งแต่ก็มีอุปสรรคตลอด,แกนนำยื่นข้อเสนอเพิ่ม และไม่จบเรื่อง, M79 ลงคืนที่จะมีการเจรจาทุกครั้ง, นายกฯไม่รับเจรจากับผู้ก่อการร้าย, ม็อบหลากสีไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา แสดง ถึงความพ่ายแพ้ทางด้านจิตใจของคนไทยและไม่เห็นใจผู้ได้รับผลกระทบอย่างแท้ จริงทุกฝ่าย
เราเติมเชื้อไฟเมื่อเอ่ยปากด่าว่า
เราเติมเชื้อไฟเมื่อเราสะใจ
เราเติมเชื้อไฟเมื่อเราเสียดสีส่อเสียด
เราเติมเชื้อไฟเมื่อเชื่อในสิ่งที่ได้ยินทันทีตั้งแต่ครั้งแรก
เราเติมเชื้อไฟจากการถูกชี้นำ
เราเติมเชื่อไฟเมื่อเราดูถูก
เราเติมเชื้อไฟเพราะทำเป็นไม่เห็น ไม่เข้าใจคนที่ไม่เหมือนกัน
จากการเติมเชื้อไฟเข้าไปในหัวใจเรื่อยๆ โดยไม่คิดที่จะดับ หรือถอนออกมาด้วยสติ ไม่คิดถึงกองไฟใหญ่ที่จะเกิดขึ้นและทำร้ายความเป็นมนุษย์ ไฟที่ลุกไหม้โรงหนังสยามและ CTW ทั้งทุกๆที่ คือไฟที่ลามออกมาจาก หัวใจของคนทุกคนนั่นเอง
credit: http://www.ipattt.com/2010/fire-siam/
วันที่ 20 พ.ค. 53
วันนี้ไม่มีเหตุการณ์รุนเเรงเพิ่มเติมจากเมื่อวานคับ เเต่ยังคงมีการประกาศเคอร์ฟิว ในเวลา 21.00น. - 05.00น. ไปจนวันเสาร์ที่ 22 พ.ค. นี้ มีการประกาศให้พื้นที่รอบอาคารห้างสรรพสินค้างเซนทรัลเวิร์ลเป็นพื้นที่อันตราย เสี่ยงต่อการถล่มของอาคาร
(http://www.ipattt.com/wp-content/uploads/2010/05/siam-theater.jpg)
โรงหนังสยาม
(http://img130.imageshack.us/img130/954/80462006.jpg)
เซนทรัลเวิร์ล เข้าวันที่ 20 พ.ค. 53
(http://www.nationmultimedia.com/home/2010/05/20/headlines/images/30129809-06.jpg)
update 11.26pm Bangkok local time.
]เวลานี้ ห้างสรพพสินค้าเซนทรัลเวิร์ล ไฟได้ลุกลามไปถึงครึ่งหนึ่งของห้างฝั่ง Zen เเล้ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรุงเทพมหานครพึ่งจะสามารถเข้าถึงสถานที่เกิดเพลิงไหม้ได้ หลังจากเพลิงลุกลามไปเเล้วนานกว่า 8 ชั่วโมง บางส่วนของอาคารพังลงมาเพราะไม่สามารถต้านทานความร้อนเป็นเวลานานได้
วันที่ 19 พ.ค. 53
สถานการณ์ล่าสุดตอนนี้คือ เเกนนำของผู้ชุมนุมเสื้อเเดงประกาศยุติการชุมนุมเเละเข้ามอบตัวกับตำรวจเเล้ว หลังจากที่กำลังทหารเดินหน้าเข้าขอพื้นที่คืนจากผู้ชุมนุมตั้งเเต่ช่วงเช้าของวันนี้ (วันที่ 19 พ.ค. 53) จนกระทั่งสามารถควบคุมพื้นที่การชุมนุมหลักในย่านราชประสงค์ได้ เเต่หลังจากเเกนนำประกาศยุติการชุมนุม มีกลุ่มก่อความไม่สงบ เผาทำลายสถานที่ต่างๆในกรุงเทพฯในหลายที่ รวมไปถึง ห้างเซนทรัลเวิร์ล โรงหนังสยาม ลิโด้ สยามพารากอน อาคารมาลีนนท์ช่อง 3 การไฟฟ้านครหลวงสาขาคลองเตย ฯลฯ
(http://entertainment.goosiam.com/hotnews/admin/my_documents/my_pictures/FDF_Clip_120.jpg)
(http://news.mthai.com/wp-content/uploads/201.jpeg)
(http://news.mthai.com/wp-content/uploads/5110.jpg)
นอกจากนั้นเเล้ว ยังมีความเคลื่อนไหวในต่างจังหวัดอีกหลายจังหวัด เช่น ที่จังหวัดขอนเเก่นมีการเผาทำลายศาลาว่าการจังหวัด ที่จังหวัดชลบุรี อำเภอ ศรีราชา มีความพยายามเข้าไปสร้างความวุ่นวายในเขตท่าเรือเเหลมฉบัง หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายทั้งหมด ทำให้รัฐบาลออกประกาศ เคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากเคหะสถานตั้งเเต่เวลา 20.00น. ของวันนี้ไปจนถึง 06.00น. ของพรุ่งนี้ ประกาศให้่เป็นวันหยุดราชการไปจนสุดสัปดาห์นี้ สถานศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ยังคงเลื่อนเปิดภาคเรียนต่อไป
น้องๆทุกคนโทรเช็คกลับไปหาที่บ้านนะครับ เเล้วถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจากวันนี้ไป พี่จะทยอยๆมาเขียนให้คร่าวๆในนี้นะ
(http://news.mthai.com/wp-content/uploads/344.jpg)
(http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-sjc1/hs295.snc3/28399_1410640741828_1106762962_31209748_7709833_n.jpg)
(http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-sjc1/hs299.snc3/28632_1245495987982_1546874445_467591_3622943_n.jpg)
พี่ อาร์ม USA#47
ไฟที่น่าเศร้าใจที่สุด คือไฟในใจของคนไทย
สิ่งที่แย่ที่สุดคือ ทุกคนไม่พยายามเข้าใจซึ่งกันและกันเลย ผู้ชุมนุมไม่ได้ดูสื่ออื่นเลย คนกรุงเทพฯก็พยายามในการเชียร์ให้รัฐบาลสลายโดยเหมือนแกล้งไม่รู้ว่าธุรกิจ รอบด้านจะเสียหาย รัฐบาลก็บอกล่วงหน้าว่าผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อการร้าย (ทำให้ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ) แกนนำหลายคนที่มาจากต่างจังหวัดและไม่ใช่แกนนำสาย”นักเคลื่อนไหว”แต่เป็นแกน นำสาย”นักการเมือง”ก็ปลุกปั่นผู้ชุมนุมให้ฮึกเหิมเพื่อไม่ให้อยากกลับ แนวคิดของแกนนำสวนทางกับแนวทาง จึงสร้างสะสมความรุนแรงให้มากขึ้น คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อยากสร้างความรุนแรงก็เข้าร่วมเรื่อยๆ ( แต่ไม่สามารถก่อเหตร้ายได้เพราะแกนนำยังรับผิดชอบอยู่ ) การปิดกั้นสื่อทุกทางทำให้ ผู้ชุมนุมขยายอาณาเขตไปทางสีลม และทำให้เกิดการยั่วยุกับกลุ่มคนสีลม มีการระแวงบุกโรงพยาบาล/BTS ทำให้รัฐออกสื่อ และเกิดความเกลียดชังต่อเนื่อง มีกลุ่มม็อบหลากสีและม็อบพันธมิตรออกมาและได้ออกโทรทัศน์ ทับถมทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ Timeline ของ ทวิตเตอร์และ facebook เต็มไปด้วยข้อความเสียดสี หยาบคาย ดูหมิ่น และอ้างถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นปช.ที่อยู่ต่างประเทศไม่สนใจ นปช.ในประเทศด้วยการออกสื่อและข้อความที่ล่อแหลมตลอดเวลา ฯลฯ
การเจรจาจะเกิดขึ้นหลายครั้งแต่ก็มีอุปสรรคตลอด,แกนนำยื่นข้อเสนอเพิ่ม และไม่จบเรื่อง, M79 ลงคืนที่จะมีการเจรจาทุกครั้ง, นายกฯไม่รับเจรจากับผู้ก่อการร้าย, ม็อบหลากสีไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา แสดง ถึงความพ่ายแพ้ทางด้านจิตใจของคนไทยและไม่เห็นใจผู้ได้รับผลกระทบอย่างแท้ จริงทุกฝ่าย
เราเติมเชื้อไฟเมื่อเอ่ยปากด่าว่า
เราเติมเชื้อไฟเมื่อเราสะใจ
เราเติมเชื้อไฟเมื่อเราเสียดสีส่อเสียด
เราเติมเชื้อไฟเมื่อเชื่อในสิ่งที่ได้ยินทันทีตั้งแต่ครั้งแรก
เราเติมเชื้อไฟจากการถูกชี้นำ
เราเติมเชื่อไฟเมื่อเราดูถูก
เราเติมเชื้อไฟเพราะทำเป็นไม่เห็น ไม่เข้าใจคนที่ไม่เหมือนกัน
จากการเติมเชื้อไฟเข้าไปในหัวใจเรื่อยๆ โดยไม่คิดที่จะดับ หรือถอนออกมาด้วยสติ ไม่คิดถึงกองไฟใหญ่ที่จะเกิดขึ้นและทำร้ายความเป็นมนุษย์ ไฟที่ลุกไหม้โรงหนังสยามและ CTW ทั้งทุกๆที่ คือไฟที่ลามออกมาจาก หัวใจของคนทุกคนนั่นเอง
[/size]
+ 1000000000000000000000000
ต่างฝ่ายต่างก้อจะเอาชนะ .
สุดท้าย ..
ทุกคนก็คือผุ้แพ้ :(