Author Topic: เมื่อเด็กไทยไปทัวร์ Boston~  (Read 3292 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline NG_TA USA#49[TX]

  • AFSer Graduate
  • *
  • Posts: 555
  • Gender: Male
  • Otaku แห่ง AFSer 49#
    • My Facebook
  • Exchange In: United States
  • Generation: #49 (2010-2011)
 เอาล่ะครับหลังจากหายหัวจากบอร์ดไปนานเนื่องจากไม่ค่อยว่างเข้า
วันนี้พอดีได้มีโอกาศไปเค้าเดาน์ที่บอสตั้นนะครับเลยจะขอหาสาระมาฝากนิดนึง
---วันแรก---
เอาล่ะมาประเดิมกันที่ร้านหนังสือแคมบริจด์อันลือชื่อข้างๆฮาวาร์ดกันก่อนเลยละกัน

หลังจากสังเกตุดูรอบๆร้านหลายทีก็ขอมาประกาศว่าพวกฮาวาร์ดบ้าดีจิงๆ(ลองสังเกตชื่อหนังสือดีๆนะพี่น้อง)

บรรยากาศที่ถนนแคมบริจด์

เอาล่ะเดินเข้ามาในฮาวาร์ดอันลือชื่อกันหน่อยดีกว่าในนี้มีสถานที่สำคัญๆทางประวัติศาสตร์ตามนี้เลย

ด้านบนนี้คือบ้านหลังที่จอร์ช วอชิงตันใช้เป็นศูนย์บัญชาการในช่วงสงครามกลางเมืองนะครับหรือจะเรียกว่าเป็นทำเนียบประธานาธิปดีแห่งแรกก่อนทำเนียบขาวนะครับ

ส่วนนี่คือHarry Elkins Widener Memorial Library เป็นหอสมุดที่อยู่ด้านในฮาวาร์ดนะครับเป็นหนึ่งในสามหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา
หอสมุดแห่งนี้มีที่มานะครับ  หลายๆคนคงเคยดูหนังชื่อก้องโลกเรื่องไททานิคกันนะครับเรื่องมีอยู่ว่าตา เฮ็นรี่ เอริค เนี่ยเป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่เสียชีวิตบนเรื่อนะครับโดยตาคนนี้เนี่ยเพิ่งจบมาหมาดๆและแม่ของเค้าก็รู้สึกเสียในมากและก็ก็รู้ว่าเอริคเนี่ยรักที่นี่มากเค้าก็เลยก่อสร้างหอสมุดแห่งนี้มาเป็นอนุสรณ์ถึงเอริคนะครับ

ส่วนอันนี้ฮาหน่อยนี่เป็นรูปปั้นของนาย เจมส์ ฮาร์วาร์ด นะครับ
รูปปั้นนี้มีชื่อเล่นว่า"three lies"หรือแปลง่ายๆว่าเรื่องโกหกสามอย่างนะครับ 
ที่มาของชื่อนี้มีดังนี้
1.ไม่มีใครรู้ว่าหน้าตาที่แท้จริงของนายฮาร์วาร์ดเนี่ยเป็นยังไงเพราะฉะนั้นไอหน้าบนรูปปั้นเนี่ยแหลสด
2.นายฮาร์วาร์ด ไม่ใช่คนก่อตั้งมหาวิทยาลัยตามที่เขียนไว้บนรูปปั้น (คนส่วนใหญ่เข้าในผิดเพราะชื่อมหาลัย)เพราะฉะนั้นมันมั่วนิ่มอีกแล้ว
3.มันเขียนวันก่อผิดไปเกือบๆสามสิบปี
มันน้่าสงสัยจิงว่าใครมันเป็นคนสร้างไอรูปปั้นนี้สุดจะมั่ว......
เอาล่ะย้ายจากฮาร์วาร์ดกันดีกว่ามาเข้าเรื่องประวัติศาสตร์อเมริกากันบ้างหลายๆคนคงจะรู้ประวัติศาสตร์อเมริกากันบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ส่วนเด็กแมกาก็ขุดๆความรู้ใช้คลาสเรียนกันขึ้นมาหน่อยนะครับ หลายๆคนคงจำกันได้ว่าจุดเริ่มต้นของการประกาศอิสรภาพจากบริเตนหรืออังกฤษเนี่ยมันเริ่มมาจากการที่มีม๊อบชาวนาชาวบ้านไปเรียกร้องลดภาษีแล้วโดนยิงตายกันไปห้าคนนะครับ

นี่เป็นรูปปั้นถึงชาวนาที่ตายไปนะครับ ส่วนคนในรูปก็ผมเองนะครับ งิๆ
เอาล่ะต่อๆยังไม่หมดเอาล่ะขุดความรู้กันอีกนิดนึง คำถามที่แห่งแรกที่ทหารอังกฤษกับชาวนาอเมริกาปะทะกันเอ่ย?
คำตอบคือ ที่หมู่บ้านคอนคอร์ด สมรภูมินอร์ทบริจด์ นะคร๊าบบบบ



อันสุดท้ายเป็นภาพถ่ายจากบนสะพานที่ว่าเน้อ สวยชิมิล่ะ

อันนี้หมู่บ้านคอนคอร์ดปัจจุบันนะครับ อิๆไปเดินช็อปมา
เอาล่ะใครเล็งคณะวิศวะไว้น่าจะน่าสนใจพวกนี้นะครับขอนำเสนอพิพิธพัณธ์ที่เก็บรวบรวมผลงานบ้าๆบอๆของเด็กนักเรียนจากมหาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในด้านวิศวะกรรมนะครับ MIT
เปิดกันด้วยนี่โฮโลแกรม

หมายเหตุ.รูปต่อไปนี้ทั้งหมดมีความหนาไม่เกินหน้ากระดาษนะจ๊ะ



ไอรูปสุดท้ายนี่หลอนมองได้ทุกมุมเหมือนของจริงเลย
เอาต่อไปหุ่นยนต์ที่ประดิษฐ์จากโจทย์เอาอุปกรณ์ที่หาได้ในห้องเรียนมาประกอบนะครับ

กลายเป็นหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยเคลื่อนที่ได้....
ปล.ใครมันแงะเอากล้องวงจรปิดในห้องมาประกอบฟะ

ส่วนอันนี้เป็นหน้าหุ่นยนต์ที่แสดงอารมณ์ได้แบบมนุษย์นะครับ(มองยังไงมันก็ไม่ใช่คนแหะ)

ตัวอย่างร่างแบบที่เด็กนักเรียนทำส่งอาจารย์นะครับ(ใครเข้าใจมั่งมันคิดไรอยู่?)
---วันที่สอง---
กลับมาเข้าเรื่องประวัติศาสตร์กันต่อวันนี้เต็มๆ

อันนี้เป็นรูปโบสถ์บอสตั้นสตรีทนะครับถ่ายมาจากฝั่งสวนสาธารณะบอสตั้นคอมม่อนจุดเริ่มต้น
เดินกันต่อมาก็จะเป็นหลุมศพของนายแฟรงค์คินนะครับหนึ่งในวีรบุรุษในการประกาศอิสรภาพ


ด้านบนนี้เป็นรูปศาลากลางเก่านะครับมีประวัติเป็นโรงเรียนแห่งแรกของอเมริกาด้วยนะครับ

อันนี้จากพื้นด้านหน้าตัวอาคาร ส่วนปัจจุบันศาลากลางหลังเก่าแห่งนี้เปิดทำการเป็นร้านสเต็กไปซะแล้ว(กลิ่นหอมหวนมากกก)

ส่วนตึกนี้เป็นสถานที่นัดพบกันในเหตุการณ์ งานเลี้ยงน้ำชาบอสตั้นนะครับ

ส่วนนี่เป็นภาพจากด้านในที่ทำการของบริเตนนะครับในสมัยที่ยังเป็นโคโลนี่อยู่
เสร็จแล้วก็ไปเดินรอบเมืองต่อแล้วก็เจอของน่าสนใจอีกแล้ว

สถานที่นี้เรียกกันว่า โฮโลครัส เป็นสถานที่ที่รวบรวมหมายเลขของชาวยิวที่เสียชีวิตในค่ายกักกันของเยอรมันนะครับร่วมๆล้านกว่าหมายเลข

พอล รีเวอร์เร่ คุ้นๆชื่อกันรึเปล่า

เอาล่ะใครไม่คุ้นชื่อจะอธิบายให้ฟังเดี๋ยวนี้แหละ
พอล รีเวอร์เร่ คือวีรบุรุษอีกแล้วครับท่านเค้าคือคนที่ขี่ม้ามาจากคอนคอร์ด(ไม่รู้จักกลับไปดูด้านบน)เพื่อมาเตือนชาวเมืองว่าทหารบริเตนได้เคลื่อนทัพมาถึงแล้วทำให้พวกชาวเมืองเตรียมการรับมือได้ทันซึ่งเป็นโดยเค้าได้แขวนโคมไฟไว้บนยอดของโบสถ์ซึ่งรูปด้านบนก็คือโบสถ์ที่เค้าแขวนไฟเตือนไว้นะครับ
ขอจบวันที่สองนะครับ



in my precious memory........
at Texas-New Maxico border
ski Trip Texas-Colorado 12-20 March 2011

Offline PON USA 11-12

  • AFSer Freshmen
  • *
  • Posts: 42
  • Gender: Male
  • howdy!
    • My Facebook
  • Exchange In: United States
  • Generation: #50 (2011-2012)
Re: เมื่อเด็กไทยไปทัวร์ Boston~
« Reply #1 on: January 01, 2011, 07:13:29 PM »
ขอบคุณครับสำหรับทัวร์ประวัติศาสตร์ :D

สวยจังอยากไปบ้าง ชอบที่สุดก็โฮโลครัสกับพิพิธภัณฑ์ภาพโฮโลแกรมนี่แหละ
THAILAND ---> UNITED STATES (EF 2011 - 2012)

 
    --> 

Aplington-Parkersburg High School

Parkersburg, IA, United States

Offline Earth USA #49

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 385
  • Gender: Male
  • RHS, Houston, TX
    • My Facebook
  • Exchange In: United States
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: เมื่อเด็กไทยไปทัวร์ Boston~
« Reply #2 on: January 02, 2011, 11:42:17 AM »
I wish I could gooooo
ปัญหาไม่ใช่สิ่งที่เราไม่รู้ มันคือสิ่งที่่เรารู้ แต่รู้ไม่จริง

Offline PARN

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 105
  • Gender: Male
  • Silver Spring, MD
    • My Facebook
  • Exchange In: United States
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: เมื่อเด็กไทยไปทัวร์ Boston~
« Reply #3 on: January 02, 2011, 11:10:40 PM »
ไป Cambridge ยังไง ไม่ได้ไปตามรอยเสด็จ ?? จาก Harvard ไปถึง Mount Auburn Hospital ไม่ถึง 3 กิโลเมตร น้องๆหรือเพื่อนๆคนไหนไปครั้งหน้า ไปเหยียบที่ืที่ว่านี่นะครับ

Offline Mayjii USA#50

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 236
  • Gender: Female
  • Newport Beach,Caifornia<3
    • My Facebook
  • Exchange In: United States
  • Generation: #50 (2011-2012)
Re: เมื่อเด็กไทยไปทัวร์ Boston~
« Reply #4 on: January 09, 2011, 05:27:18 PM »
น่าไปมากๆเลยค่ะ >w<
   

I Love Logan Lerman > <"
AFS NEEDY # 50
contact me : [email protected]
Facebook : Jiirawan Wade Lerman
;DDDD