AFSer Thailand Webboard
AFS Talk => Everything => Topic started by: หนูจ๋าไปอเมริกา 48 on March 24, 2009, 02:31:30 PM
-
เมื่อกี้ได้เมล์จากเอเอฟเอสเรื่องวัคซีนกะผลการเรียน อ่านแล้วงงค่ะ
ตกลงเราต้องทำอะไรกันบ้างเนี่ย
:rab-tuzki05:
-
อิๆของผมมะมี ยังไม่ได้...
-
งั่นคนที่ไม่ได้นะ
เรียน ผู้ปกครองและนักเรียนเอเอฟเอส โครงการเอเอฟเอสเพื่อการศึกษาและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระยะ 1 ปี รุ่นที่ 48
ประจำปี (พ.ศ.2552 – 2553) ภาคพื้นทวีปเหนือ ประเทศสหรัฐอเมริกา
เรื่อง แจ้งการขอประวัติการฉีดวัคซีนและข้อมูลสุขภาพจากเอเอฟเอสประเทศสหรัฐอเมริกา
หลังจากที่มูลนิธิการศึกษาและวัฒนธรรมสัมพันธ์ไทย–นานาชาติ (เอเอฟเอส ประเทศไทย) ได้จัดส่งใบสมัครนานาชาติของนักเรียนเอเอฟเอสโครงการ 1 ปี ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว เอเอฟเอสประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และมีความประสงค์จะให้นักเรียนแต่ละคนรายงานประวัติการฉีดวัคซีนที่นักเรียนได้ฉีดเพิ่มเติมและข้อมูลสุขภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อยื่นเอกสารดังกล่าวสมัครเข้าโรงเรียนอุปถัมภ์ โดยมีรายการการฉีดวัคซีนที่นักเรียนจะต้องได้รับให้ครบก่อนเดินทางและการตรวจสุขภาพที่จำเป็น ดังต่อไปนี้
การฉีดวัคซีน
1. DPT ( ป้องกันโรค ไอกรน คอตีบ บาดทะยัก ) 4 เข็ม ถ้าเข็มสุดท้ายที่ ฉีดนับถึงปัจจุบันมีอายุเกิน 10 ปีให้ฉีดกระตุ้น1 เข็ม
2. IPV / OPV (ป้องกันโรคโปลิโอ) 4 เข็ม (เด็กไทยทุกคนจะได้รับวัคซีนชนิดนี้พร้อมกับวัคซีน DPT ตอนเป็นเด็ก)
3. MMR (ป้องกันโรค หัด คางทูม หัดเยอรมัน ) 2 เข็ม
4. Chicken pox (ป้องกัน โรคอีสุกอีใส) 2 เข็ม แต่ถ้านักเรียนเคยเป็นแล้วต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าเป็นอีสุกอีใสแล้ว โดยต้อง ระบุ เดือน และ ปี ที่เป็นอย่างชัดเจน เช่น “He had chicken pox in April 2005.” นักเรียนที่ส่ง
รายงานการเป็นอีสุกอีใส แล้ว แต่ในใบรับรองแพทย์ไม่ได้ระบุ เดือน ปีที่เป็น เช่นระบุว่า “ He had chicken pox 10 years ago.” หรือระบุว่า “ He had chicken pox when he was 5 years old.” นักเรียนจะต้องขอใบ
รับรองแพทย์ใหม่ ที่ระบุเดือนปี เนื่องจากโรงเรียนมัธยมในประเทศสหรัฐอเมริกาไม่รับเอกสารการแพทย์ที่ไม่ชัดเจน และเอเอฟเอสประเทศสหรัฐอเมริกาจะแจ้งกลับมาให้นักเรียนฉีดวัคซีนป้องกันอีสุกอีใส ถ้านักเรียนไม่ทำ
ใบรับรองแพทย์ใหม่
5. Hep B (ป้องกันโรค ไวรัสตับอักเสบ บี ) 3 เข็ม
6. Hep A (ป้องกันโรค ไวรัสตับอักเสบ เอ ) 2 เข็ม ในคู่มือการทำใบสมัครนานาชาติได้ระบุว่า วัคซีนชนิดนี้ให้ฉีดเฉพาะบางรัฐเท่านั้นซึ่งเอเอฟเอสจะแจ้งว่านักเรียนจะต้องฉีดหรือไม่ บัดนี้เอเอฟเอสประเทศไทยขอ
เปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าวเนื่องจากเอเอฟเอส ประเทศสหรัฐอเมริกาได้แจ้งข้อมูลล่าสุด ว่านักเรียนแลกเปลี่ยนทุกคนจะต้องได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ 2 เข็ม ก่อน เดินทาง
7. Meningococcal (Meningitis) vaccine (วัคซีนป้องกันไข้กาฬหลังแอ่น) เป็นวัคซีนล่าสุดที่เอเอฟเอสประเทศอเมริกาแจ้งว่านักเรียนแลกเปลี่ยนในบางเขตพื้นที่จะต้องฉีด ซึ่งเอเอฟเอสประเทศอเมริกาจะแจ้งให้ทราบ
ว่านัก เรียนคนไหน จำเป็นต้องได้รับวัคซีนชนิดนี้บ้าง และเอเอฟเอสประเทศไทยจะแจ้งให้นักเรียนที่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนชนิดนี้ให้ทราบเป็นรายบุคคล
8. BCG (วัคซีนป้องกันวัณโรค) 1 เข็ม (เด็กไทยทุกคนได้รับวัคซีนชนิดนี้ตั้งแต่แรกเกิด)
การตรวจสุขภาพ
9. นักเรียนทุกคนต้องตรวจ TB Test ซึ่งต้องระบุวิธีการตรวจ (Mantoux หรือ Tine ) และต้องทำ chest x-ray ด้วย (แผ่นฟิล์มx-ray ให้นักเรียนเก็บไว้ไม่ต้องส่งมาเอเอฟเอส)
10. เนื่องจากประกันของเอเอฟเอฟไม่ครอบคลุมเรื่องการตรวจฟัน โรคเกี่ยวกับฟันและการดัดฟันของนักเรียน เอเอฟเอส
ประเทศสหรัฐอเมริกาแนะนำให้นักเรียนไปพบแพทย์ประจำของนักเรียนและตรวจสุขภาพฟันก่อนการเดินทาง โดยเฉพาะนักเรียนที่ดัดฟันให้ปรึกษาแพทย์ของนักเรียนว่าควรทำอย่างไรเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงมากเมื่อนัก
เรียนอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว
11. สำหรับนักเรียนที่ใส่แว่นตา หรือคอนแทคเลนส์ นั้นประกันของเอเอฟเอฟก็ไม่ครอบคลุมเช่นกัน จึงแนะนำให้นักเรียนตรวจวัดสายตาและปรึกษาแพทย์ประจำของนักเรียนก่อนการเดินทาง
12. นักเรียนที่มีโรคประจำตัวต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องนักเรียนจำเป็นต้องแจ้งเอเอฟเอส และขอใบรับรองแพทย์จากแพทย์ประจำของนักเรียน (เป็นภาษาอังกฤษ) โดยใบรับรองแพทย์นั้นต้องระบุระยะเวลา
อาการที่เป็น ความรุนแรงของโรคนั้นๆ และวิธีการรักษา ถ้าต้องรับประทานยา ให้แพทย์บอกชนิดของยาด้วย เมื่อนักเรียนอยู่ในประเทศอุปถัมภ์แล้วเจ้าหน้าที่เอเอฟเอส อาสาสมัครเอเอฟเอสและครอบ
ครัวอุปถัมภ์จะได้ทราบว่าจะ ต้องดูแลนักเรียนอย่างไรบ้าง
13. กรณีที่นักเรียนมีอาการแพ้ เช่นแพ้กุ้ง แพ้ขนสัตว์ แพ้ยา หรือมีอาการแพ้อื่นๆ ที่มีอาการปานกลางถึงรุนแรงต้องรับประทานยาเป็นประจำ นักเรียนจำเป็นต้องแจ้งเอเอฟเอสเช่นกันและให้ขอใบรับรองแพทย์จากแพทย์
ประจำ ของนักเรียน (เป็นภาษาอังกฤษ) โดยใบรับรองแพทย์นั้นต้องระบุระยะเวลา อาการที่เป็น ความรุนแรงของการแพ้นั้นๆ และวิธีการรักษา ถ้าต้องรับประทานยา ให้แพทย์บอกชนิดของยาด้วย
** ในข้อ 12 และ13 ถ้านักเรียนไม่ได้แจ้งเอเอฟเอสก่อนและมีอาการของโรคเกิดที่นั่น นักเรียนอาจจะไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที**
ฝ่ายบริการการศึกษา จึงใคร่ขอให้ผู้ปกครองและเยาวชนได้ตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีนของนักเรียนตามรายการข้างต้น ถ้ายังไม่ครบให้ไปพบแพทย์เพื่อรับวัคซีนชนิดนั้นๆ ขอใบรับรองการฉีดวัคซีนจากแพทย์ที่นักเรียนไปพบ โดยใบรับรองแพทย์จะต้องเป็นภาษาอังกฤษ ระบุชื่อโรงพยาบาล ประทับตราโรงพยาบาล วันที่ฉีดวัคซีน ชื่อนักเรียน ชื่อแพทย์ ประเภทของวัคซีนที่ฉีด หลังจากได้รับใบรับรองแพทย์แล้วให้นักเรียนรีบส่งเอกสารดังกล่าวมายัง ฝ่ายบริการการศึกษา มูลนิธิเอเอฟเอส ประเทศไทย ให้ระบุมุมซองว่าส่งเอกสารการฉีดวัคซีน (USA09) ส่วนการส่งใบรับรองแพทย์กรณีที่เป็นโรคประจำตัวหรือมีอาการแพ้ต่างๆ ก็ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน
ถ้านักเรียนคนใดได้รับแจ้งให้ฉีดวัคซีนหรือขอใบรับรองแพทย์เพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่เอเอฟเอสก่อนจดหมายฉบับนี้ และนักเรียนได้ส่งเอกสารที่ขอมาให้เจ้าหน้าที่แล้ว รวมทั้งนักเรียนที่ตรวจสอบแล้วว่าตนเองได้รับวัคซีนครบถ้วน นักเรียนไม่ต้องส่งเอกสารมาเพิ่ม แต่ให้รวบรวมสำเนาเก็บไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากนักเรียนจะต้องรวบรวมเอกสารการฉีดวัคซีนและการตรวจสุขภาพทั้งหมดไปพบแพทย์ของเอเอฟเอสเพื่อกรอกเอกสาร Health form addendum ซึ่งเป็นเอกสารสรุปการฉีดวัคซีนและการตรวจสุขภาพของนักเรียนก่อนเดินทาง โดยเอเอฟเอสประเทศสหรัฐอเมริกาจะส่งเอกสาร Health form addendum มาก่อนนักเรียนเดินทางประมาณ 1 เดือน และนักเรียนทุกคนจะต้องถือเอกสารดังกล่าวติดตัวไปยื่นให้กับโรงเรียนอุปถัมภ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ถ้านักเรียนไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ครบก่อนเดินทาง นักเรียนต้องไปฉีดเพิ่มเติมที่ประเทศอุปถัมภ์ นักเรียนควรจะขอให้แพทย์ออกหนังสือระบุกำหนดการฉีดวัคซีนเข็มต่อไป (เป็นภาษาอังกฤษ) ให้นักเรียนนำไปให้แพทย์ในประเทศอุปถัมภ์เพื่อฉีดวัคซีนต่อให้ครบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและดำเนินการ
ขอแสดงความนับถือ
(นางสาวจิรวัฒนา จรูญภัทรพงษ์)
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริการการศึกษา
สำนักงานมูลนิธิการศึกษาและวัฒนธรรมสัมพันธ์ไทย-นานาชาติ (เอเอฟเอส ประเทศไทย)
-
วัคซีนเช็คใหม่อีกรอบว่าครบมั้ย
ถ้าไม่ครบก็ฉีดเพิ่ม
transcript ยังไงก็ต้องขออยู่ดี
เราขึ้น ม.5 ก็ต้องเอาtrancript ของ ม.4 เทอม 1+2
เมื่อท่านได้ Transcript แล้วให้ถ่ายสำเนาหรือ Scan เก็บไว้ (นักเรียนจำเป็นต้องนำ Transcript ฉบับจริงหรือสำเนาติดตัวไป
ประเทศอุปถัมภ์ด้วย) แล้วส่ง Transcript มายังฝ่ายบริการการศึกษา วงเล็บมุมซองว่า Transcript ส่ง USA
อนึ่ง เมื่อท่านได้ส่ง Transcript เพื่อประกอบการเข้าโรงเรียนอุปถัมภ์ในข้างต้นมาแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องขอ Transcript ฉบับดังกล่าวอีก เมื่อได้รับหนังสือแจ้งจากฝ่ายวีซ่าระบุให้ขอ Transcript เพื่อประกอบการขอวีซ่า ให้ท่านขอเฉพาะTranscript ส่วนที่เพิ่มเติมเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วฝ่ายวีซ่าจะขอ Transcript ปีล่าสุดและรายวิชาที่จะเรียนในภาคเรียนหน้า
หลังๆแบบงงมากๆ
-
ย้อๆของ Transcript:
-ให้ส่งใบ Transcript ของล่าที่สุด
วัคซีน:
-ให้ตรวจสอบที่ฉีดวัคซีน ว่าได้ฉีดหมดแน่ๆ ไม่งั่นต้องไปฉีดที่นั่นแต่ว่าต้องเอาหนังสือรับรองเกี่ยวกับฉีดที่นั่นเป็นภาษาอังกฤษ จะได้ฉีดได้ถูกต้อง ..
-
เฉพาะ USA ป่าวอ่ะ
-
จดหมายสำหรับเมกางับ
-
โชคดีที่ยุโรปไม่ได้ทำ
ดูยุ่งยากไงไม่รู้
-
งงมากๆๆ
-
ฮ่าๆๆ
เมกากว่าจะได้ไป นี่แทบกระอักเลือด
-
อิตาลี
สบายๆ ~
-
น่าจะมีแค่ของ 'เมกา นะ
ประเทศไม่เหนมีเรย
'เมกาเคร่งเรื่องนี้มากกก
สบายไปหน่อยย ^^
-
ข้าพเจ้าก้องงเหมือนกานนนจา
5555+
:m048:
-
อยากบอกว่าฉีดยาไม่ทันนะครับ
ไวรัสตับอัคเสป เอ อะ เพราะต้องเว้น 6 เดือนแนะ -*- ขาดไปอีกเดือนวันนี้จะไปฉีดละ ...
-
โชคดีที่ยุโรปไม่ได้ทำ
ดูยุ่งยากไงไม่รู้
ยุ่งยากจริงๆค่ะ
ไม่ใช่แค่ดูยุ่งยาก
-
ไปฉีดเพิ่มมา ปวดแขนนนนนนนน
-
เหมือนกันเลย ฉีด Hep A แบบเข็มเดียว อิอิ
แล้วก็ Chest X-Ray!
-
ต้องไปขอtranscript
ขี้เกียดเล็กน้อย!
-
โดน ไป 6เข็ม คร้าบเพ่น้อง -*-
-
5555 5 5
ใจมาก ที่แปลให้
งงอยู่นาน
เร่นส่งมาซะ เปนหน้าา *
-
สรุปคือ
เอาผลการเรียนล่าสุดที่เป็นสำเนาส่งไปให้AFS(ต้องเป็นภาษาอังกฤษป่าวอ่ะ???)
แล้วใบรับรองการฉีดยาก็ต้องทำเป็นภาษาอังกฤษใช่มะ