AFSer Thailand Webboard

AFS Talk => Everything => Topic started by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 11, 2010, 09:27:16 PM

Title: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 11, 2010, 09:27:16 PM
คือมีเรื่อง อยาก มาเม้าท์คร๊าบบ
แบบว่า สองอาทิตย์ก่อน มันอยู่ในช่วง
วันหยุด อีสเตอร์ แล้วคือวันนั้นโฮสบราเธอร์ืั้ทั้งสอง
ของผม เขาก็ไปรับจ๊อบ  ทำงานกันตามประสาเด็กฝรั่ง
ผมเลยอยู่บ้านคนเดียว ทั้งอาทิตย์ จนกว่าโฮสทุกคนจะกลับ
บ้าน ก็เย็นๆโน้น ละ แล้ว คืนนั้น ผมคุยเอ็ม อยู่กับเพื่อนผู้หญิง
ในคลาสคนนึง ขอบอกตรงๆ ผมโคตรปลื้มเขา มาก มาก 5555+

อะนะ นิด นึง แล้วแบบ คุยกันไปคุยกันมา ผมก้บอกว่า เนี่ยอยู่
มาๅเดือนแล้ว ยังไปเที่ยวในเมืองมาไม่ครบเลย แล้วช่วง
นี้โฮสบรา ก้รับjob อยู่ด้วย ออกไปไหนคนเดียวยังไม่ได้
ต้องอยู่บ้านเล่นกับ คารลอสและออนการ์ หมาสองตัวที่บ้าน
สาบานได้ ไอ้คารลอส มันเปนหมาที่ฉลาดที่สุกบนโลกที่ผมเคยเจอ
มันฟังภาษาอังกฤษออกและที่สำคัญมันเปิดประตูเปน วันนั้น
อาบน้ำอยู่ งง มาก แมร่ง เปิดประตูเข้ามา เฉย -*-
บางทีกลับจากโรงเรียนเปิดประตูมา มันนอนอยู่บนเตียงผมสะงั้น
พอพอ เข้าเรื่อง ต่อ ขอใช้ A แทนชื่อ ของ ผู้หญิงคนนี้
เนื่องจากผมไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด ได้ ด้วยเหตผล
ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ ฮา

เขาก็บอกว่า เขาเองก็ต้องอยู่บ้านเหมือนกัน ไม่มีอาไรทำเลย
และประโยค ถักมา ผมพิมไปว่า well if you don t mind ,do you want to go to the city with me ?
ในขนะนั้นเอง เขาก็พิม มา ถาม ผม ว่า if you dont mind, do you want me to show you around the city?
ตรงกันเดะ 5555+ ในเมื่อ มาขนาดนี้แล้ว มีหรอ คราบ จะไม่ไป
ไปสิครับ ก้ตกลงกันว่าจะไปที่ Phaeno ชึ่งก้คล้ายกับพิพิธพัน วิทย์ บ้านเรา
แต่มัน เจ๋ง กว่า มาก มาก
ก้ ตกลง ว่า จะเจอ กัน ที่ ป้ายรถเมล ใน ดาวน์ทาว บ่าย โมงครึ่ง
จากนั้น เรา ก้คุยกัน จน ประมาน ตี 1 แล่ว ผม ก้ไปนอน
นอน ไม่หลับ หลอก ตื่นเต้น โคตรๆ 555+
หลับๆตื่นๆ ยัน เก้าโมง อ่าครับ ไปอาบน้ำแต่งตัว รอเลย

คิด ดู ลนขนาด ไหน ก้บอกโฮสแดด ก่อนครับ ว่า
วันนี้ จะออกไป ข้างนอก นะ ชึ่งเขาก็ไม่มีปันหา อะไร
อยุ่แล้ว เขาอยากให้ผมออกไปไหนกับเพื่อน บ่อยๆ โฮสผมค่อนข้่าง
จะปล่อยๆ แต่เขาดุแล ผมดีมากก มากจนบางที ผม รู้สึกเปนเดกอีกครั้ง
พอประมานเที่ยง ผม ก็จะขี่จักยาน ออกไป เพราะ บอกเลย
ที่เยอรมัน มีจักรยานคันเดียวไปได้ทุกที่ท่ามีแรงไป นะ ผมชอบอยู่แล้ว
วิว ก็สวย ประกด ว่าโฮสแดด ว่างอยู่ ก็จาไปส่งผม ผมก็บอกแล้วนะ
ผมอยาก ขี่จักรยานไป แต่อย่างที่บอกแหละ เขามองผมเปนเดก ห้าขวบ
เขาก้ยิ้ม แล้ว บอกว่ารอแปปนะ ขอ ไปยิ้มกุนแจ ก่อน ผมก็ไม่อยากดื้ิอ นะ
ก้เขาอุส่าอยากไปส่งนิ ก็ok ผมไปถึงดาวทาว ประมาน 12 30  
คิดในใจว่า เขาคงยังมาไม่ถึงหรอก แต่ พอลงจาก รถ ของโฮสแดด ผม

มอง ข้ามไปที่ฝั่งตรงข้าม ที่ป้ายรถเมล เหนเดกผุ้หญิงผมบลอนด์
ใส่แว่น คนนึง นั่งอ่านหนังสือ อยุ่ ใช่แล้ว ครับ A นั้นแหละ
ยังไม่ทัน จะทักหรือพุดอะไร เขาเงยหน้ามาก็เหนผมแล้ว
ทำตัวไม่ถุกครับ เอ๋อ มาก ตอนนั้น ยัง นึกอยุ่เลย นี้ กุฝํนป่าววะเนี่ย
เขาก็ยิ้มแล้วตะโกน เรียกชื่อผม hey Chris  โบกมือ แล้ว เกบหนังสือ
ลงกระเป๋า ปล ยังเอ๋อ อยุ่ครับ ผม อ่า ทำไรไท้ถุก จิงๆนะตอนนั้นอ่ะ
เขาก็ข้ามถนน มา แล้ว ก็ถามผมว่าทำไมมาเร็วจัง ชึ่งมันควรจะเปนคำถาม
ของผมมากกว่า ผมมาตอนเที่ยงสี่สิบเหนจะได้ ชึ่งเรานัดกันตอน บ่ายโมงครึ่ง นะ
ปรกติ มันเปนมารยาทอยู่แล้วเรื่องตรงเวลาของคนเยอรมัน ผมถีงคิดว่าผมควรมาก่อน
ก็เปนผุ้ชายนิ เรื่องแบบนี้พลาดไม่ได้ เฟริสอิมเพรสชั่น สำึัคันโคตรๆ
ก็ไม่ได้อะไรครับ ได้แต่ งง งง พอเริ่มหายเอ๋อเราก็เดินไปที่ Phaeno กันชึ่ง
มันก็ไม่ไกลมากหรอก ประมาน ยี่สิบเมตร จาก ป้ายรถเมลเองมั้ง เหอะๆ
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 11, 2010, 09:27:45 PM
ก้ต้องชื้อตั๊วก่อนครับ อันนี้ผมก็เอ๋อ อีก อ่านภาษาเยอรยังไม่ค่อยออก
และแมร่งมีหลายราคามาก ยาวเปนพรึด ทั้งครอบครัว เด็ก นักเรียน
ตั๊วปี เดือน งง สิครับ แล้ว กุจะชื้อตั๊วไหนวะเนี่ย หันมาอีก ที A หายไป
แล้วครับ เอ๋อ ครับ เอ๋อรอบสอง ก็มองรอบๆเลย คนมันก็เยอะอยู่นะ
มองไปมองมา A เธอก็เดินกลับมา จับมื้อช้ายผม แล้วผุกตั๊วติดกับข้อมือ
ผม งงสิครับ งง อีกหล่ะทุเรส นะ ในมุมมองคนไทย ผมเป้นผุ้ชาย นะ ชวน
ผุ้หญิงมาข้างนอก มาก็มาช้ากว่า แถมนี้เขายังชื้อตั๊วให้ผมอีก ขายหน้าึีัครับ
ผมก็จะจ่ายเงินให้เขา ผมก็ถามว่าเท่าไหร่ 8EU ใช่ไหมเพราะตั๊วนักเรียน
นี้ขนาดนักเรียนนะ แพงเหมือนกัน เขาก็ยิ้มแล้วบอกว่าไม่เอา ผมยอมที่ไหน
เล่า อับอายมากให้ผุ้หญิงออกเงินให้เนี่ย ไอ้จนอ่ะจน นะ แต่มันก็ดุไม่ดีอ่า
ผมก็พยายามหาทุกวิธีจ่ายเงินคืนให้ จับยัดใส่มือ เขาก็ยัดคืนอีก -*-
จนปันยาครับ เลยปล่อยไป เราก็เดินดุรอบๆ กันไปเรื่อยๆ เล่นโน้นเล่นนี้เหมือนเด็กเลย
มีโชนนึงเป็นห้องมืด เหมือนเขาวงกด ตอนเข้าไปเล่น บรรยากาศพาไปครับ
จับมือกันสะแน่น พอมาออกอีกฝั่งได้เพิ่งรุ้ตัว 5555+
เหมือนหนังน้ำเน่าเลย ต่างคนต่างตกใจ เขาก็ยิ้ม โอยยย
ต่อไป อีก ก็มาถึงมุมๆนึง มันเป็นเต็นท์สามเต็นท์ ในคำอธิบายก่อนเล่น
มันบอกว่าให้เดินเข้าไปในเต็นท์ทั้งสาม โดยเข้าเปนคุ่ แล้วมันมีวงเล็บว่า
เข้าไปกับหญิงหรือชายที่รุ้จักเท่านั้น ผมก็แปลกใจแต่ตรงนั้นแหละ
ว่าทำไม ต้องรุ้จัก อ่า มันมีจุดประสงค์อะไรแน่ ไอ้เต็นท์สามเต๊นนี้
มันเป็นเต้นทรงสุงสามอัน มีเลข 1 2 3 เรียงเราเข้าไปอันแรก ยืนตรง
จุดที่เปนรอยเท้าผมก็งง แล้วอะไรต่อไป แค่เนี่ยอ๋อให้เข้ามายืน
เราก็ไปที่เต็นท์สอง ก็เหมือนเดิมครับ มีแค่รอยเืท้าแค้มันใกล้กันมา
กว่าเดิม ผมยัง งง อยุ่ว่าจุดประสงของมันคืออะไร จนถึงเต็นท์าุสุดท้าย
แบบเข้าไปปุป รอยเืท้าสองรอยมันชนกันเลย ผมรุ้โดนสันชาตยานความหื่น
ว่า นี้มันไว้ให้คนจุบกันชัดๆใกล้ขนาดนี้ จะให้มายืนคุยกันระยะนี้ก็บ้าแล้ว
เราสองคนยิ้มครับ รุ้ทันทีในใจ หัวเราะกันทันที เอ๋ออีกรอบครับทำอะไรไม่ถุกยืนใกล้
กันในระยะนั้น ท่ามีขนมดติดอยุ่ที่หน้าเขาผมก็คงเหน ฮา

เราก็ไปกันต่อครับ มันใหญ่มากที่นี้ จนมาุุถึงกิจกรรม นึง เราดุจะเป็นคนที่แก่สุดในนั้น
เพราะตรงนั้นมีแต่เด็กๆอายุตั้งแต่ 6-10เหนจะได้ คือเราเล่นกันเหมือนเด็ก ชุตบาสให้
ลงแป้น โดยใส่แว่นแปลกๆอันนึง ผมอธิบายไม่ถุกว่าไอ้แว่นนี้มันเป็นแว่นอะไร
แว่นหักเหแสงหรืออะไรสักอย่างนี้หล่ะ สาบานได้ท่าจอรแดนหรือโคบี้ไบรอัน
มาใส่มันลงแข่ง Man on man  กับเด็กสิบขวบที่ไม่ได้ใส่ไอ้แว่นอันนี้
เดกสิบขวบชนะชัว ไปเรื่อยๆ เราก็ยังอยุ็กลางวงเดกๆ มาถึง โต๊ะๆนึง
มันมีแท่งเหล็กเยนเชียบ หนึ่งแท่งเราแข่งกันว่าใครจะทนได้นานสุด
ผม A และเดกอีก 2คน ห้านาทีผ่านไป เดกคนนึงทนไม่ไหว ร้องไห้แงๆ

ออกไป หนึ่ง A กับผมยังแข่งกันอยุ่ผมไม่ยอมหรอก เรื่องอะไรจะแพ้ผุ้หญิง
ขอโชวแมนหน่อย แล้วอยากบอกว่าแมร่งเยนมาก เหมือน เอาไปแช่ไว้ที่
ขั้วโลกเหนือ มือผมอ่าชาแล้วไม่รุ้สึก สักพัก A  ทนไม่ไหว เขาเอามือ ออก
ทำหน้าเหือน จะร้องไห้ ตามเดกคนนั้น เหอะๆ ผมก็เอามือ ออก ตาม และ
บอกกับเดกคนสุดท้ายว่า เออ ไอ้น้อง เอง ชนะ หว่ะ พี่ยอม อะไรทำนองนี้

เดกคนนั้นฟังอังกฤษไม่ออก แน่ A ก็แปลเปนเยอรมันให้เดกคนนั้นฟัง
แล้ว ก็มีประโยคยึงที่ไอ้เดกน้อยน่ารักคนนี้พุด มาไอ้ประโยคนี้แหละ
อยากไปจับไอ้เดกคนนนี้กอด มากก ช่างรุ้ใจ Ist er dein Freund
ผม ยอมรับผมยังโง่ภาษาเยอรมันมาก แต่ ไอ้ประโยคนี้ผมแปลออก
โดยสัญชาตยาน มันหมายความว่า ผุ้ชายคนนี้เปนแฟนพี่หรอครับ
อาไรทำนองนั้น ผมแกล้งทำเปนไม่รุ้เรื่อง ทำเปนเล่นกับเดกอีกคน

แต่ผมยังแอบมอง A  อยุ่นะว่าเขาจะตอบและแสดงอาการยังไง
เขายิ้มกับเดกคนนั้นแล้วลุบหัว และไม่ได้ัพุดอะไร แล้วเดินมาหาผม
เราก็ไปกันต่อ จนประมาน หกโมงเรานั่งคุยกันไปเรื่อยที่ น้ำพุในดาวทาว
ผมถามว่าบ้านเขาอยุ่ไหน ผมหยิบแผนที่มาให้เขาชี้ ผมตก ใจมาก หมุ่บ้านของ
เขาอยุ๋ห่างออกไป มาก จาก เมือง ต่างจาก ผม ที่ แค่ขี่จักรยากไปไหนในเมือง
ได้ทุกที่ ปรกติไปเรียนพ่อแม่เขาจะมาส่งมารับ ในเมืองผม
คนที่นี้เกือบ ครึิืงทำงานให้ VW โฮสผมเองด้วย พ่อแม่ของเขาก็ด้วย
แต่วันนี้เปนวันหยุด เขาต้องกลับบ้านเอง มันไกลมาก พ่อคุน นังรถเมล ประมาน
สี่สิบ ห้าสิบ นาทีได้ แต่ก็ยังมาพา ผม เที่ยว ผมยังไม่ลืมว่าเขาออกค่าตั๊วให้ผม
ผมพยายามจะจ่ายคืนให้เขา เขาก็ยังยืนยันว่าไม่เอา ผมก็เลยได้ที บอกไปว่า
ท่าอย่างนั้น คราวหน้าที่เราไปเที่ยวด้วยกัน เราต้อง เปนคนจ่ายให้ เธอ นะ
เขายิ้มอีกที แล้วบอกว่า อืม โอเค ผม รอจนรถเมลของผม มา เรา จะบอกลา
ผมจับมือ แล้วบอกลา ธรรมดา แต่ตอนนั้นเหมือนเราเกือบจะกอดกันแล้ว

แบบต่างคนทำอะไรไม่ถุกโน้มตัวเข้าหากันแต่ ไม่กล้าทั้งคุ่ ผมได้แ่หัวเราะ
ทำอะไรไม่ถุกผมรีบโดดขึ้นรถเมล์ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนบางคนอาจมอง
ว่าผมบ้า แต่มันเปนอาไรที่สุดยอดมาก มาก ผมมาอยุ่นี้ได้ หนึ่งเดืิอน
เพื่อนๆ ก็แสนจะดี โฮสดุแลผมจนผมไม่คิดถึงบ้านสักนิด
ผมรุ้สึกเหมือนอยุ่นี้มา หลายเดือนแล้วทั้งๆที่จนวันนี้ มันเพิ่งจะ สี้สิบสี่วันเท่านั้น
ผมมีความสุขกับทุกๆวินาที ที่นี้จิงๆ

ปล A เปนเพื่อนในคลาสที่ดุแลผมมาตั้งแต่วันแรก ที่ไปเรียน
เธอพุดอังกฤษได้เก่งมาก เพราะเธออ่านหน้งสือภาษาอังกฤษ ผมเองก็ใช้วิธีนี้
เพื่อฝึก ตอนอยุ่ที่ไทย ตอนนี้ผมมีหนังสือที่ A ให้ผมมาอ่าน สองเล่ม ผมนอน
อ่านมันทุกคืน

ปล 2 เรื่องนี้อาจไม่เี่กียวไรมากกัยชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยน แต่มันเปนความประทับใจ
ของผมเจงๆ ยอมรับด้วย ว่าผม ก็ชอบผุ้หญิงคนนี้ แต่ ก็ยังไม่รุ้เขาคิดแบบผมหรืิอ
ปล่าว เพราะที่นี้สังคมค่อนข้างจะเปิด และแตกต่างจากที่ไทยมากนัก ผม พยายาม
ไม่แสดงอาการให้เขารุ้จนกว่า เวลามันจะผ่านไปกว่านี้ และเรารุ้จักกันดีมากขึ้น

ปล 3 ไม่ได้เขียนให้ใครหมันไส้ แค่อยากแบ่งปันประสบการดีๆ ที่ไม่ได้คิดเลย
ว่ามันจะเกิดขึ้น ขอโทษด้วยที่บางทีอาจมีคำไม่สุภาพติดๆมา ผมอยากสื่อให้เหน
ภาำพเจงๆ และเพื่อแสดงถึงความเปนผมด้วย

ปล 4 อยากได้คำแนะนำด่วน ว่า ควร จะจีบผู้หญิงเยอรมันยังไง คร๊าบบบ  555+

Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: tannoiz on April 11, 2010, 09:34:54 PM
พี่ไม่หมั่นไส้นะ  เฉยๆ  ดีออกที่อย่างน้อยเราก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้

กล้าป่าว? ถ้าชอบจริงๆก็ชวนไปเที่ยวด้วยกันอีกสักทีดิ  งานนี้ไม่ลองไม่รู้  เพราะเท่าที่อ่านต่างคนก็ต่างมีใจให้นะ  ^^
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: POOM GER#49SH on April 11, 2010, 09:59:10 PM
มันส์กว่าดูละครน้ำเน่าอีก 55+
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 11, 2010, 10:02:59 PM
มันส์กว่าดูละครน้ำเน่าอีก 55+

goo gor wa yang nan la

tae goo ja jeeb jing jing na nia

kon nia chob mak ar
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: MetalFreak on April 11, 2010, 10:36:54 PM
ดราม่าจิงๆเลยไอ่น้อง ฮ่าๆๆๆๆ ดีแล้วๆ
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 11, 2010, 10:46:05 PM
ดราม่าจิงๆเลยไอ่น้อง ฮ่าๆๆๆๆ ดีแล้วๆ

jing jing P

pom gor wa man Drama

tae man gerd kun jing jing na nia
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม on April 11, 2010, 10:47:33 PM
เป็นผมคงกอดเขาไปละ ด้าน-ได้ อาย-อด อิอิ
ขอให้รักกันยืนยาวต่อไป :laugh:
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: MetalFreak on April 11, 2010, 11:43:18 PM
ดราม่าจิงๆเลยไอ่น้อง ฮ่าๆๆๆๆ ดีแล้วๆ

jing jing P

pom gor wa man Drama

tae man gerd kun jing jing na nia
พี่ก้ไม่ได้ว่าไม่จิง ไม่จูบไปเลยวะ ฮ่าๆๆๆๆ
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: Mind HUN#49 on April 12, 2010, 12:17:39 AM
เหมือนนิยายเลยอ่ะ 555 จีบเลยพี่!! :wink:
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: Gunn_USA48! on April 12, 2010, 12:21:02 AM
5555 อ่านช่วงแรกๆแล้วหมั่นไส้เว้ยย ไปๆมาๆซึ้งแอบเชียร์ โรแมนติกอ่ะ คือเราอยู่เมกานะ แต่มีเพื่อนเดกแลกเปลี่ยนเยอรมันเยอะมากกกกกกก..กกก แต่ล่ะคนเพื่อนสนิททั้งน้าน

อาจจะไม่ช่วยอะไรมากแต่ เรื่องกอดอ่ะอยู๋ไปมันก็จะชินเองล่ะ 55555 ฝรั่งเขาไม่คิดมาก เราก็ไม่ต้องคิดมากหรอก ครั้งแรกๆมันจะกอดแบบเขิลๆห่างๆเหมือนแค่โอบเฉยๆ ไปๆมาเด๋วก็กอดเองล่ะ เปงกำลังใจว่ะ สู้ๆ 5555
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 12, 2010, 12:43:00 AM
ดราม่าจิงๆเลยไอ่น้อง ฮ่าๆๆๆๆ ดีแล้วๆ

jing jing P

pom gor wa man Drama

tae man gerd kun jing jing na nia
พี่ก้ไม่ได้ว่าไม่จิง ไม่จูบไปเลยวะ ฮ่าๆๆๆๆ

gor yak yoo na

tae pod wa P 555+
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: MetalFreak on April 12, 2010, 01:17:56 AM
ดราม่าจิงๆเลยไอ่น้อง ฮ่าๆๆๆๆ ดีแล้วๆ

jing jing P

pom gor wa man Drama

tae man gerd kun jing jing na nia
พี่ก้ไม่ได้ว่าไม่จิง ไม่จูบไปเลยวะ ฮ่าๆๆๆๆ

gor yak yoo na

tae pod wa P 555+
เสียเชิงชายจริง! กร๊ากกก

จีบไปเลยไอ่น้องงง
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: P POR#48 on April 12, 2010, 01:20:36 AM
อิจฉาเว้ย ไปวอฟบวก ไหงไม่ไปดูบอลฟะ (เอาภาพมาฝากด้วย) 

ปล ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในกระทู้นี้เลยซักติ๊ด ฮ่าๆ
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 12, 2010, 01:37:33 AM
อิจฉาเว้ย ไปวอฟบวก ไหงไม่ไปดูบอลฟะ (เอาภาพมาฝากด้วย) 

ปล ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในกระทู้นี้เลยซักติ๊ด ฮ่าๆ

doo ma 3 match leaww kor bork

dai shake hand gab Grafiti leaw duay 55+
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 12, 2010, 01:38:39 AM
artid na ja doo Wolfsburg gab Bremen nia

ha ticket yoo 555+
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: P POR#48 on April 12, 2010, 03:32:54 AM
artid na ja doo Wolfsburg gab Bremen nia

ha ticket yoo 555+

อิจฉาเว่ย ฮ่าๆ (เเม่งเอ้ยอยากเจอเซโก้ สาดๆ ฮ่าๆ)
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: Noey Ger 49 on April 12, 2010, 04:03:36 AM
Viel glück!


Ich auch,ich habe  ein Freund! 55555


Wir sind nur eine woche zusammen.

Er ist sehr nett.

Ich liebe ihn!

:)
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 12, 2010, 04:09:25 AM
Viel glück!


Ich auch,ich habe  ein Freund! 55555


Wir sind nur eine woche zusammen.

Er ist sehr nett.

Ich liebe ihn!

:)

jing di

arrai wa rew kwa krit eek arr
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: Noey Ger 49 on April 12, 2010, 04:20:15 AM
จิงๆมิได้โกหก เค้าน่ารักมากเรยอ่ะแก  เปนเพื่อนของโฮสบราชั้น  เค้าคอยดูแลช่วยเหลือชั้นต้างแต่วันอรกที่ชั้นมาถึงเรย  รู้จักกันมาเดือนนึงถึงตกลงเปนแฟรกัน


พูดแล้วก็เขินอ่ะ  55555


 :grin:
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: Hin USA~MO on April 12, 2010, 10:28:03 AM
อิจฉาเว้ย ไปวอฟบวก ไหงไม่ไปดูบอลฟะ (เอาภาพมาฝากด้วย) 

ปล ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในกระทู้นี้เลยซักติ๊ด ฮ่าๆ

doo ma 3 match leaww kor bork

dai shake hand gab Grafiti leaw duay 55+

ไปจับมือกับเค้าได้ไงนั่น
เค้านักเตะชั้นนำของลีกเลยนะ  เหอๆ



ปล.เรื่องนี้เหมือนเคยเกิดขึ้นกับเรามาก่อนนะเนี่ย  แต่เป็นคนไทยด้วยกันนะ ตอนอยู่เมืองไทยอ่า
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: Turk's ITA#49 on April 12, 2010, 03:03:01 PM
จีบเลยครับบบบ เอาใจช่วยๆ  :th_034_: 55
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: BlackMiracle on April 13, 2010, 11:21:06 AM
ฮู้ยย เจ๋งอะ
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: MIN GER#49 [NH] on April 13, 2010, 02:21:10 PM
สู้ๆเข้า คิดดูว่าถ้าในหนึ่งปีมีเค้าคอยอยุ่ด้วยตลอดๆ มันคงเปนหนึ่งปีที่คุ้มสุดๆไปเลยอ้ะ!
ทำยังไงก็ได้ให้เวลาหนึ่งปีของเรามันคุ้มค่าที่สุดดดดดด :DD
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: B2KHM on April 13, 2010, 05:32:04 PM
เจ๋งอ่ะ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร 555+
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: MewZz!GER#48 on April 13, 2010, 06:37:34 PM
Heoy! Ja jeep jing di!

Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 13, 2010, 09:30:05 PM
Heoy! Ja jeep jing di!



ja lur lhor?
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 13, 2010, 10:13:50 PM
ma kanad nee leaw P

toi mai dai leaw 555+
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 13, 2010, 10:27:52 PM
อิจฉาเว้ย ไปวอฟบวก ไหงไม่ไปดูบอลฟะ (เอาภาพมาฝากด้วย) 

ปล ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในกระทู้นี้เลยซักติ๊ด ฮ่าๆ

doo ma 3 match leaww kor bork

dai shake hand gab Grafiti leaw duay 55+

ไปจับมือกับเค้าได้ไงนั่น
เค้านักเตะชั้นนำของลีกเลยนะ  เหอๆ



ปล.เรื่องนี้เหมือนเคยเกิดขึ้นกับเรามาก่อนนะเนี่ย  แต่เป็นคนไทยด้วยกันนะ ตอนอยู่เมืองไทยอ่า

un nee bang ern mak mak krab

baeb wa wannan pai tee fan shop

kong VFL wolfsburg nai VW stadium

leaw kamlang ja kee jakgayan grab ban

leaw P Graf gae gor pro ma

jord Audi trong na lei

host brother pom tokjai mak

kao gor bork pom nan ar grafite yak dai laisen mai?

yak si ja lur lor? 555+

reeb rong jak jakgayan lei

sia dai wan nan mai dai aow camera pai seng mak mak
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: ~ ♥ หมิวจัง ★☆ Norway#49 ♦ ♫ on April 13, 2010, 10:35:45 PM
สุดยอดจิงๆ!!

ที่สุดในโลกแล้วเหอะเพื่อนเรา 5555+

เหมือนอ่านนิยายอยุ่เลยอ่ะ >W<

อ่านแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มีความสุขตามไปด้วยเลยล่ะ ^W^
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: HammY [SH] GER#49 on April 14, 2010, 09:22:00 PM
มันส์กว่าดูละครน้ำเน่าอีก 55+

+1
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: MinTianjin ChN 49 on April 15, 2010, 07:14:40 PM
เหมือนอ่านนิยายอยู่เลยอ่ะ

เอาใจช่วยค่ะ ^^
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: พ.แพทไปเยอรมัน #49 on April 15, 2010, 08:33:36 PM
เห็นคนส่วนใหญ่บอกว่าคนเยอรมันเย็นชา
แต่ A นี่ไม่ใช่แฮะ น่ารักดีๆ :)
เพราะฉะนั้นจีบเลยๆ 555 สู้ๆ
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 15, 2010, 10:54:33 PM
yen cha lor?

haha yak ja huaror jing jing

bork dai lei krab

ma nee 48 wan leaw

yang mai hen kwam yen cha kong kon german lei

friends tee nee dee mak

dee kwa tee thai eek na pom wa

jing jai leaw gor take care mak mak
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: pluplu France<3 on April 15, 2010, 11:34:44 PM
so romantic <3
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: POOM GER#49SH on April 15, 2010, 11:51:26 PM
จะบอกว่าเรื่องเพื่อนก็อย่าหวังมากนะ เพราะอาจจะเสียใจแบบเราได้ หวังสูงไปร้องไห้เลย เสียใจมันไม่เป็นไปตามที่หวัง เรื่องเพื่อนจะได้แบบไหนมันแล้วแต่ดวงจริงๆ การกินข้าวคนเดียวเป็นเรื่องปกติ การเดินเปลี่ยนห้องคนเดียว การเดินไปขึ้นรถบัสคนเดียว หรือนั่งคนเดียวมันปกติจริงๆ ต้องคิดแบบนี้ เพราะคนที่นี่แล้วแต่เมืองเป็นแบบนี้จริงๆ ปาร์ตีแทบจะไม่มี เค้าบอกว่าน้อยมากๆ

แล้วแต่ดวง เชื่อเรา อย่าหวังมาก อืม
ด้วยความปรารถนาดี
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: P POR#48 on April 16, 2010, 12:51:16 AM
เห้ยคนเยอรมันใจดีออก เรามีเพื่อนเอเอฟเอสจากเยอรมันมาเรียนโรงเรียนเดียวกันด้วย (ปล น่ารักดี ฮ่าๆ)
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: bitoey on April 16, 2010, 08:57:43 AM
อยากเหนรูปฝรั่งคนนั้นจัง พี่เอารูปลงให้ดูหน่อยดิ 555555 :D
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: Mint" Ger49. on April 16, 2010, 05:04:39 PM
อยากเหนรูปฝรั่งคนนั้นจัง พี่เอารูปลงให้ดูหน่อยดิ 555555 :D

อยากเหนด้วยคนนนนนน 55
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 16, 2010, 07:05:50 PM
จะบอกว่าเรื่องเพื่อนก็อย่าหวังมากนะ เพราะอาจจะเสียใจแบบเราได้ หวังสูงไปร้องไห้เลย เสียใจมันไม่เป็นไปตามที่หวัง เรื่องเพื่อนจะได้แบบไหนมันแล้วแต่ดวงจริงๆ การกินข้าวคนเดียวเป็นเรื่องปกติ การเดินเปลี่ยนห้องคนเดียว การเดินไปขึ้นรถบัสคนเดียว หรือนั่งคนเดียวมันปกติจริงๆ ต้องคิดแบบนี้ เพราะคนที่นี่แล้วแต่เมืองเป็นแบบนี้จริงๆ ปาร์ตีแทบจะไม่มี เค้าบอกว่าน้อยมากๆ

แล้วแต่ดวง เชื่อเรา อย่าหวังมาก อืม
ด้วยความปรารถนาดี

he s right but in my opinion

there s really nothing to do with a luck

no matter how your friends here are

they are who they are

they will not change their charactors just for us

you have to learn what they think and adapt yourself to them

and one thing is they not really open to you much

but you have to be open to them

try show them that you re wanted to be their friend

and they may look not friendly

but believe me it doesn t mean that they dont like you

i think they kind of shy

so if you go on and talk to them everytime

say hi or try do somethings funny make them smile

in 2- 3 weeks they gonna be real good friends




Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 16, 2010, 07:14:48 PM
http://www.facebook.com/photo.php?pid=31215600&id=1166671868

doo nai facebook aow krab

mee roop dek kon tee pood duay na 555+
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: MetalFreak on April 16, 2010, 07:25:08 PM
http://www.facebook.com/photo.php?pid=31215600&id=1166671868

doo nai facebook aow krab

mee roop dek kon tee pood duay na 555+
ร้ายนิหว่า ฮ่าๆๆๆๆๆ
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 16, 2010, 08:13:45 PM
arrai gan P

pom ork ja riabroy 555+
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: bitoey on April 17, 2010, 09:07:17 AM
http://www.facebook.com/photo.php?pid=31215600&id=1166671868

doo nai facebook aow krab

mee roop dek kon tee pood duay na 555+

น่ารักจิงๆ เลยยยยยยยยย ><
จีบเลยพี่ เอาจัยช่วยยยยยย :P
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: manuela (: on April 17, 2010, 12:25:06 PM
พรหมลิขิตชัดชัด ;D
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: P@t!p@n NOR#49 on April 17, 2010, 12:54:28 PM
สุดยอด

จีบเลยครับจีบเลย
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: smilewan29 on April 17, 2010, 04:09:54 PM
สุดยอดเลย+.+
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 18, 2010, 05:49:59 AM
part 2

ต่อจากวันนั้นที่ไป เืเที่ยวกันมา เีราก็คุยกันบ่อยมากครับ
ตลอดวันหยุด หนึ่งอาทิตย์ที่เหลืออยู่ มันตลกดี นะ ที่เราทั้งคู่
ต้องพูดภาษาอังกฤษ ทั้งๆที่มันไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ของเรา
แต่ก็โชคดีที่ ผมกับ A ไม่มีปัญหาอะไร เธอพูดอังกฤษได้ดีจนผม
ไม่คิดว่าเธอเป็นคนเยอรมันด้วยซ้ำ คุยกันทาง M บ้าง เฟสบุคบ้าง
แล้วแต่อารมณ์ อย่างที่ผมบอกแหละ เพื่อนที่เยอรมันค่องข้าง
จิงใจ คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ผมรู้สึกไม่อึดอัดเวลาคุยเธอเลย

ตลกดีที่บางเรื่อง เราออกจะเหมือนกันด้วยซ้ำ   มีน้องชาย หนึ่งคน
ผมเอฃที่ไทยก็มีน้องสาว หนึ่งคน ครอบครัวเธอก็ใหญ่เธอมีญาติๆ
อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน มีลูกพี่ลูกน้องอีกหลายคน บางครั้งเธอต้อง
เลี้ยงน้องๆุถึงหกคน เหมือนผมเดะ อยู่ไทยเวลาวันหยุดทีไร ผม
ต้องไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กทุกที เราเลยบ่นกันเรื่องเด็กๆนี้แหละ เธอ
ชอบ สัตว์เลี้ยง ผมก็เหมือนกัน ผมก็เอาเรื่องของเจ้าคาร์ลอส
หมาที่บ้านโฮสนี้แหละ เล่าให้เธอฟัง ว่ามันปวนประสาทแค่ไหน
จนมาถึงเรื่อง Marley and me  หนังเรื่องนึง ที่เกี่ยวกับหมา ป่วนๆ
ใช่ผมชอบหนึงเรื่องนี้มาก ผมอยากเลี้ยง ลาบาดอ มานานแล้ว แต่
พอมาเจอเจ้าคาร์ลอส ผมเข้าใตความรู้สึกของหนังเรื่องนี้เลย เราคุย
กันยาวมาก เพราะเธอก็ชอบหนังเรื่องนี่ เหมือนกัน กับหนังอเมริกัน
ยอดฮิตเลย แอร์บัด โกลเด็น ฉลาดๆ ที่มีภาคต่อเป็นสิบภาคเลยมั้ง
จนปัจจุบันมายันรุ่นลูกของแอร์บัดแล้ว ก็ยังมีต่อๆ มา ผมดูหนังเรื่อง
นี้บ่อยมากตอนเด็กๆ ไม่คิดว่าจะมีใครดูแบบผม เหอะๆ

เราคุยกันจนสนิทเหมือนรู้จักกันมาเป็นปีๆ เธอรู้ชื่อเลนผม ทั้งๆ
ที่น้อยคนนักจะรู้ เพื่อนๆที่มา เอเอฟเอส ด้วยกัน ยังไม่รู้เลยมั้ง
เรื่องว่าเธออยากเรียนอะไรต่อหลังจบ ม ปลาย เรื่อง เธออยาก
ทำอะไร ผมรู้หมด เธอก็รู้ของผมหมดเหมือนกัน แต่มันอาจไม่
แตกต่างจากเพื่อนๆคนอื่นที่นี้ ผมก็สนิทกับคนอื่นๆในคลาสเหมือนกัน
อย่างที่บอก ผมพยายามเว้นระยะห่าง ผมก็กลัวเเธอรู้แล้ว จะออกห่าง
จากผม แต่ มันแปลก ตรงที่ว่า เธออยากจะรู้วันเกิดผมให้ได้ เพราะ
เวลาคุยกัน ผมอายุมากกว่า เธอ และ ผมชอบเรียกเธอว่า Little girl
้เหอะๆ เธอก็เรียกผมว่า big boy  แต่เธอก็ไม่ชอบเวลาผมเรียกว่าเด็ก
น้อย แต่ผมก็แหย่อยุ่แบบนั้นแหละ ทั้งอาทิตย์ เหอะๆ

วันเกิดของ A มันมาตรงกับช่วงเปิดเรียนพอดี วันแรกที่เปิดเรียน
ผมเอาบาสไปเล่น หลังเลิกเรียน ผม ก็สอนเธอเล่น ก็ไม่ได้าสอน
คนเดียวหรอก เพื่อนๆ อีก ห้าหกคนก็มาให้สอนด้วย กขค จิงๆ
จนมาวันศุกร์ วันเกิดของเธอ ผม เตรียมการไว้หมดแล้ว กะว่า
หลังเลิกเรียน จะชวนเธอไปกิน ไอศกรีม ในเมือง แล้วให้ของ
ขวัญเธอตรงนั้น ตอนเช้าเราเรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน ผมแกล้งทำเป็นลืม
ว่า เนี่ยวันเกิดเธอ เราคุยกันธรรมดาๆ ผมไม่ได้บอก HBD หรืออวยพรอะไร

แต่พอคาบสุดท้ายเราไม่ได้เรียนด้วยกัน เพราะคาบสุดท้าย เหมือนเปนวิชา
เลือก ที่เราไม่ได้เลือกตรงกัน พอเลิกเรียนให้ตายเถอะ ฝนตกครับพี่น้อง
แผนผมพังไม่เห็นท่า เธอไม่ไปแน่ท่าฝนตก และใครจะไปกินไอติม ใน
บรรยากาศแบบนี้ฟะ -*- พอเลิกผมก็กะจะรีบอย่างน้อยเอาของขวัญ
กับการ์ดไปให้ก็พอ แต่ก็โดยแล้งอีกหล่ะ เดนิส เพื่อนของผม อยากเล่นบาส

Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 18, 2010, 05:51:17 AM
มันก็แย่งลุกบาสผมไป บอกว่าท่าอยากกลับ ก็มาแย่งไปสิ ผมเสียเวลาอยุ่กับ
มันนานเหมือนกัน กว่าจะได้บาสคืน ผมรีบวิ่งไปที่ห้องนั่งพักของโรงเรียน ให้ตาย
เหอะเธอไม่อยู่แล้ว ผมมองหาจนทั่ว โฮสบราเธอ ผมก็มาพอดี ผมไม่มีทางเลือก
นอกจากจะต้องกลับบ้านกับเขา เพราะฝนมันตก เราเลยตกลงกันว่าจะติดรถ
เลนาร์ด เพื่อนในหมู่บ้านกลับ แต่ ตอนที่ออกจากตึกมา ผมเหน A นั่งอ่านหนังสือ
อยู่ที่ป้ายรถเมล์ ผมแกล้งบอกโฮสบราไป ว่า ผมลืม ของไว้ที่คลาส บอกเขากลับไปก่อนเลย
เดีนวผมขี่จักรยานกลับเอง ผมวิ่งไปที่จักรยาน แล้วก็นึกได้ว่า ไอ้เวง กิดเอ้ย กุญแจจักรยาน
อยู่กับโฮส ผมต้องเสียเวลสวิ่งกลับไปหา โฮสบราเธอ ผมอีก แล้วไปเอาจักรยาน
ฝนก็ตก ผมเปียกเป็นลูกหมา -*- ดีที่ฝากกระเป๋าไว้กับโฮสแล้ว ผมยัด การฺ์ดกับ
ของขวัญไว้ในจ็กเก็ต ได่แต่หวังว่ามันจะไม่เปียก ปลดล็อคจักรยานเสด ผมปั่นไปที่ป้ายรถ
เมล์ทันที มาหยุดข้างหน้า A ผมพูดภาษาเยอรมันไม่คล่องนักหรอก ผมก็พูดไป
Alles gut zum geburtstag  สิ้นประโยคเหมือผมจะ พูดผิดสำเนียงหรือติดๆขัดๆ
เด็กๆในป้ายรถเมล์หัวเราะกันใหญ่ ผมเลยกลับมาพูดอังกฤษ บอกเธอว่า
สิบหก แล้วนะ ไม่ใช่เด็กอีกแล้ว แล้ว ผมก็หยิบการ์ดให้ กับ หนังสือ เรื่อง
Marley and me  ในฉบับภาษาอังกฤษที่ผม จำได้ว่าเธอเคยบอกว่า เธอ
เคยดูแต่หนังแต่อยากอ่านหนังสือของมันด้วย ผมก็ไปหามา ซึ่งตอนแรก
ผมอยากจะอ่านเองแหละ แต่ก็ไม่รุ้จะซื้ออะไรให้เธอ ผมก็เลยเอาไอ้นี้แหละ

เธอทำหน้าเ็อ๋อๆ ผมไม่รู้อาไรตอนนั้นผมก็อายเหมือนกันให้ตายเหอะ
ทุกอย่างไม่เปนไปตามแผนสีกนิด ผมเปียก เละ ฝนก็ตกหนักมาก ป้ายรถเมล์ก็มี
แต่เด็กๆ ผมรีบคว้าจักรยาน ปั่นกลับบ้าน เปียกๆอย่างนั้นแหละ ผมคิดไปมาตลอด
ทาง มแร่งเสี่ยวสิ้นดีเลย แผนแตก พูดก็ผิด ที่สำคัญกลับไปบ้านผมคงเป็นหวัด
แต่เชื่อไหมครับ พอผม ถึงหน้าบ้านปุป ฝนหยุดตกทันที -*- ผมงงกับ อากาศ
ที่นี้มาก เหมือนฟ้าแกล้ง กูเลย คิดในใจ เข้าบ้านได้ ผทก็เปลี่ยนเสื้อ ก่อนเลย

ตอนนั้นแหละ โทรศัพท์ก็ เข้า ผมไม่ได้สนใจอ่า นึกว่าเพื่อนไทย คงโทรมา กะจะโทรกลับ
ขอหลับก่อน สองสายผ่านไป ผมกะรับตอนสายที่สามแล้วนะแต่มันกลายเป็น sms
แทน A  ครับ เวงงง ผมโคตรพลาดเลยงานนี้ เสียมารยาท มาก มาก เขา บอกขอบคุณ
นะ ไม่ได้คิดว่า จะมีใครมาให้ของขวัญ เขสชอบหนังสือเล่มนี้มาก อะไรทำนองนี้
ผมดีใจสิครับ เขาชอบมัน เหอะๆ อาจเหมือนเปนการพูดตามมารยาทก็เหอะๆ แต่
แค่นี้มันก็คุ้มแล้ว นะ เจงๆ ผมดีใจไปทั้งวัน นั่งจับเจ้าคาร์ลอสมากอดเล่น เลยหล่ะ

จนมายันอาทิตย์นี้ไม่มัอาไรเกิดขึ้นมาก ผมเริ่มอายที่จะคุยกับ A  แต่เราก็สนิท
กันมากขี้นเยอะแล้ว เธอเอาหน้งสือนั้นมาอ่านด้วยหล่ะ ผมแอบยิ้มทุกทีที่เหน
เธออ่านมัน ผมกำลังคิดเรื่อง รอบสอง จะไปไหนกับเธอดี เสนอหน่อยครับพี่ๆ


Credit for

1, E Buam New AFS GER SH 49
2,ANN golden fish AFS GER SH 49
3,My dog Carlos
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: MetalFreak on April 18, 2010, 12:30:32 PM
ชวนไปเที่ยวฮัวบวกเลยยย
ไม่รู้ว่าHamburger DOMมันหมดรึยังนะ
เป็ฯสวนสนุกน่ะ ไม่งั้นก็เข้าHamburg Dungeon
มันสุดยอดมาก

ติดตามอยู่นะไอ้น้อง ออกรวมเล่มแล้วบอกด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆ
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: Noey Ger 49 on April 18, 2010, 04:16:01 PM
คนเยอนมันไม่ได้เย็นชาแบบที่เราคิดไว้ตอนแรกก่อนมาเรยนะ  พอเจอจิงๆแล้วทุกคนน่ารักมากอ่ะ ไม่ว่าจะเปรโฺฮส  เพื่อนๆืที่โรงเรียน  และโดนเฉพาะอย่างยิ่ง  แฟนเี่ีรา  อิิอิ  ไม่ต้องกังวลน้า  ถ้าเราเป็นมิตรเค้าก้อเปนมิตรกะเราแน่นอน


 :grin:
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: P@t!p@n NOR#49 on April 18, 2010, 07:39:22 PM
ว้าว

โรแมนติกแฮะ

สู้ต่อไปครับ ทาเคชิ
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: manuela (: on April 18, 2010, 08:05:13 PM
เหมือนหนังเลยอะ แบบต้องคอยติดตามภาคต่อๆไป (;
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: FeRn Ger[sh]#48 on April 18, 2010, 09:00:24 PM
ระวังไว้หน่อยก็ดีนะ แต่ดูจากที่เล่ามาแล้ว ดูมีหวังมากมาย ย ย ย ยย ย นี่ผ่านมาแค่แป๊บเดียวเอง ได้ขนาดนี้แล้ว

เราก็มีแฟนเป็นคนเยอรนะ เค้าก็เป็นแบบนี้แหละ : ) เราว่า ได้แน่ๆ สู้ตายๆๆ ทำตัวปกติแบบเนี่ยแหละ เดี๋ยวมันจะพัฒนาเอง

แต่จริงๆก็ระวังไว้หน่อยก็ดี การแสดงออกอ่ะ เราไม่รู้นะว่าที่นายเจอมันมากขนาดไหน? แต่บางครั้งการแสดงออกของเค้าก็เป็นแค่เรื่องทั่วไป

สำหรับเพื่อน อะไรเงี้ย ย ย   แต่เราว่า นายเอาใจตัวเองว่าดีกว่า ถ้าชอบ ก็ลุย ตรงๆ แมนๆ ไปเลย 555 งงดิเนี่ย ว่าเราหมายความว่าไร

ดูวกไปวนมา 555
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: Sun In SaNtA MaRiA on April 19, 2010, 12:32:56 AM
Romantic mak Krit

See bab nee laew

Mang Pra-ek chud chud

Gu bab sud yod leiiiiiiii Jealous nid noi

Hey su su weiii and pen ngai kor ma bok eek gu waiting for read u 555+
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: FeRn Ger[sh]#48 on April 19, 2010, 03:58:04 PM
ซัน นี่เด็กเชียงรายป่ะ? ถ้าใช่ก็คงรู้จักเรานะ: )
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: Noppamon Swangwiboonpong on April 19, 2010, 09:09:02 PM
น่าร้ากกกกกกกก ^^
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 19, 2010, 10:54:39 PM
ระวังไว้หน่อยก็ดีนะ แต่ดูจากที่เล่ามาแล้ว ดูมีหวังมากมาย ย ย ย ยย ย นี่ผ่านมาแค่แป๊บเดียวเอง ได้ขนาดนี้แล้ว

เราก็มีแฟนเป็นคนเยอรนะ เค้าก็เป็นแบบนี้แหละ : ) เราว่า ได้แน่ๆ สู้ตายๆๆ ทำตัวปกติแบบเนี่ยแหละ เดี๋ยวมันจะพัฒนาเอง

แต่จริงๆก็ระวังไว้หน่อยก็ดี การแสดงออกอ่ะ เราไม่รู้นะว่าที่นายเจอมันมากขนาดไหน? แต่บางครั้งการแสดงออกของเค้าก็เป็นแค่เรื่องทั่วไป

สำหรับเพื่อน อะไรเงี้ย ย ย   แต่เราว่า นายเอาใจตัวเองว่าดีกว่า ถ้าชอบ ก็ลุย ตรงๆ แมนๆ ไปเลย 555 งงดิเนี่ย ว่าเราหมายความว่าไร

ดูวกไปวนมา 555

jing kong nai

wok pai won ma jing jing 555
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: FeRn Ger[sh]#48 on April 20, 2010, 12:11:20 AM
ก็คือ ลุยเลย แต่ก็ต้องระวังอ่า ฮ่าๆๆ เราก็ไม่รู้นะจะบอกไง มันจะรู้สึกได้เองเว่ยย ว่าถึงขั้นไหนแล้ว ฮ่าๆ สู้ตาย!
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 20, 2010, 12:12:41 AM
ก็คือ ลุยเลย แต่ก็ต้องระวังอ่า ฮ่าๆๆ เราก็ไม่รู้นะจะบอกไง มันจะรู้สึกได้เองเว่ยย ว่าถึงขั้นไหนแล้ว ฮ่าๆ สู้ตาย!

sure yoo leaw pee nong

ma terng Germany tang tee

mai lui mai dai leaw 5555
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: FeRn Ger[sh]#48 on April 20, 2010, 12:17:10 AM
แหม่ๆๆๆ ขอให้มันจริงเถอะ ฮ่าๆๆๆ เราว่าได้นะ เอาเลยๆ โหย ย ย แรงนะเนี่ย ย ย ย
Title: Re: Ist er dein Freund?
Post by: ~ ♥ หมิวจัง ★☆ Norway#49 ♦ ♫ on April 20, 2010, 12:21:02 AM
อิอิ

สุดยอดอีกแล้วว่ะเพื่อนเรา >W<

หวานเจี๊ยบ มดตอมแล้วกิด ๕๕๕

หมิวว่าเค้าชอบกิดแหล่ะ พยายามเข้าเน่อ !!!

เดทบ่อยๆๆๆๆ ๕๕ เสริมสร้างความผูกพันให้แน่นแฟ้นนน

คุยเอ็มอ้ะไม่ได้อะไรหร้อกก !! มันต้องเจอหน้า

"ดวงตา" เปนหน้าต่างของหัวใจเว่ย!

Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: brian :) on April 20, 2010, 12:31:42 AM
แม่งเท่อ้ะ ! 55 :)
สุ้เว่ย ๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: GothicFre@k on April 20, 2010, 12:43:28 AM
ดราม่าจิงๆเลยไอ่น้อง ฮ่าๆๆๆๆ ดีแล้วๆ

เชี่ยแบทนี่ออกแนวและมึง
ทำเดกเสียหมดไม่ดีๆ
เรื่อยๆใจร่มๆฮ่าๆ
jing jing P

pom gor wa man Drama

tae man gerd kun jing jing na nia
พี่ก้ไม่ได้ว่าไม่จิง ไม่จูบไปเลยวะ ฮ่าๆๆๆๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: GothicFre@k on April 20, 2010, 12:48:06 AM
แต่ระวังไว้นะน้องจะเจอแบบว่ามาทำให้เสียวแล้วเลี้ยวกลับอ่ะ
ประสบการณ์จิงที่ไม่อยากพูดถึง
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 20, 2010, 12:49:24 AM
5555 grua grua yoo nia P

P troy gab P pearnoi

bork wai yoo pom lei mai gra nia
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: brian :) on April 20, 2010, 12:52:38 AM
อะ ๆ ระวังตัว ๆ 55
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: GothicFre@k on April 20, 2010, 01:11:35 AM
เจอมาเตมๆเจบมาเตมๆTT^TTชีวิตมันเศร้า
แต่กรูเมาได้ตลอดฮ่าๆๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: Sun In SaNtA MaRiA on April 20, 2010, 01:16:24 AM
แหม่ๆๆๆ ขอให้มันจริงเถอะ ฮ่าๆๆๆ เราว่าได้นะ เอาเลยๆ โหย ย ย แรงนะเนี่ย ย ย ย
I know you and I know your nick name today,haha
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 20, 2010, 01:16:47 AM
เจอมาเตมๆเจบมาเตมๆTT^TTชีวิตมันเศร้า
แต่กรูเมาได้ตลอดฮ่าๆๆ

55 un sudtai nee hen duay krab P
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: GothicFre@k on April 20, 2010, 01:18:49 AM
ไอที่เมาได้ตลอดใช่ม่ะ
หรือว่าทั้งหมดอ่ะ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 20, 2010, 01:20:32 AM
mao dai tarod 55555
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: GothicFre@k on April 20, 2010, 01:21:46 AM
555+ไม่อยากแนะนำไรมากมายเด่วแพรน้อยมาเจอ
เด่วมันด่าเอา ด่าพี่ยังกะลูกเลย
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 20, 2010, 01:27:52 AM
555555 pai naenam nai facebook lei P

P pearnoi tam pai mai dai 5555
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: GothicFre@k on April 20, 2010, 01:37:39 AM
555
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: MetalFreak on April 20, 2010, 01:57:47 AM
เจอมาเตมๆเจบมาเตมๆTT^TTชีวิตมันเศร้า
แต่กรูเมาได้ตลอดฮ่าๆๆ
อะไร Jessiๆ ป่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: NG_TA USA#49[TX] on April 20, 2010, 02:30:23 AM
ประสบการณ์จิงๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: Niiin:g on April 20, 2010, 06:32:05 PM
กิดระวังโดนมดกัด -O-*

ถ้ามันกัดก็ไปบอกให้คนๆนั้นเย็บแผลให้นะ (มดหรือตัวไร - -)    ล้อเล่งๆ

สู้ๆ ขอให้จีบสำเร็จ แฮปปี้เอนดิ้ง    เขียนเก่งนิ  สนุกด้วย   คนอ่านก็ลุ้นกันต่อไป ~
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: shally_kung GER#49(NH) on April 20, 2010, 08:30:49 PM
จีบเลยค่า ^^
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: BlackMiracle on April 20, 2010, 10:23:35 PM
อ่านตอนต่อแล้วยิ่งสุดยอด ละครชัดๆ ฟ้าลิขิตให้ท่านไปเยอรมันจริงๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 21, 2010, 07:19:18 PM
อ่านตอนต่อแล้วยิ่งสุดยอด ละครชัดๆ ฟ้าลิขิตให้ท่านไปเยอรมันจริงๆ

I never believe in destiny until I met her!
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: Mint" Ger49. on April 21, 2010, 09:26:49 PM
อ่านตอนต่อแล้วยิ่งสุดยอด ละครชัดๆ ฟ้าลิขิตให้ท่านไปเยอรมันจริงๆ

I never believe in destiny until I met her!

อุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด! 5555

ฮิ้วววววว~
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: BlackMiracle on April 21, 2010, 09:35:59 PM
อ่านตอนต่อแล้วยิ่งสุดยอด ละครชัดๆ ฟ้าลิขิตให้ท่านไปเยอรมันจริงๆ

I never believe in destiny until I met her!

อุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด! 5555

ฮิ้วววววว~

5555
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: MIN GER#49 [NH] on April 21, 2010, 10:51:07 PM
อ่านตอนต่อแล้วยิ่งสุดยอด ละครชัดๆ ฟ้าลิขิตให้ท่านไปเยอรมันจริงๆ

I never believe in destiny until I met her!


โรแมนติกกก กิ้วๆ เอ่อ อย่าลืมรวมเล่มขายให้กับพี่น้องชาว afs
สุ้ๆเข้า ติดตามอยุ่เสมอ และรอฟังข่าวดีนะ :D
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: brian :) on April 21, 2010, 11:05:14 PM
หวานกันขนาดไหนแล้วเนี่ยย 55
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 22, 2010, 03:50:04 AM
อ่านตอนต่อแล้วยิ่งสุดยอด ละครชัดๆ ฟ้าลิขิตให้ท่านไปเยอรมันจริงๆ

I never believe in destiny until I met her!


โรแมนติกกก กิ้วๆ เอ่อ อย่าลืมรวมเล่มขายให้กับพี่น้องชาว afs
สุ้ๆเข้า ติดตามอยุ่เสมอ และรอฟังข่าวดีนะ :D

เหอะๆ ถึงขั้นรวมเล่มเลยหรอ ไม่ขนาดนั้นมั้ง

ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามครับ จาพยายามเอา

ข่าวดีมาฝาก ให้ได้ มีกำลังใจมากเลย ตั้งแต่

เขียน บล็อค นี้ ขอบคุณทุกคนมากครับ

หวานกันขนาดไหนแล้วเนี่ยย 55

เหอะๆก็นิดหน่อยนะ โปรด ติดตามตอนต่อไปคราบ

มีแผนการใหญ่ไว้แล้ว จะพยายามไม่ให้แป็กเหมือน

คราวก่อน ต้องเริ่ม ดูพยากรณ์อากาศและ เหอะๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 22, 2010, 04:17:13 AM
อ่านตอนต่อแล้วยิ่งสุดยอด ละครชัดๆ ฟ้าลิขิตให้ท่านไปเยอรมันจริงๆ

I never believe in destiny until I met her!

อันนี้จากความรู้สึกจิงๆ นะ ไม่ได้โกหกเลย
ก่อนมานี้ คิดแต่เรื่องเรียนๆๆๆๆ เอนท์ๆๆๆๆ
พอมานี้ชีวิตเปลี่ยนไปจากหน้าเปนหลังเลย
เข้าใจความหมายของคำว่า ชีวิตเจงๆ ตั้งแต่
มานี้ อาไรที่เคยคิดไว้ อาไรที่เคยเปน ลืมไป
เกือบหมดแล้ว เมื่อก่อนคิดเสมอ ว่า ชีวิตเรา
เรากำหนดชีวิตเราเอง แต่พอมานี้ หาคำอธิบาย
ไม่ได้เจงๆ ว่าอาไรทำให้ได้เจอ สิ่งดีๆเหล่านี้
ไม่รู้ว่า เคยคิดมาก่อนหรือป่าว ว่าจะได้เพื่อนๆ
ที่ไม่ใช่แม้กระทั้ง คนชาติเดียวกัน แต่กลับ เข้าใจ
และ ให้เกียรติ ในความคิดเรา ไม่ปิดกั้น ไม่แบ่งแยก
ไม่ได้คิดว่าสักวัน จาได้มาอยู่ห่างจากบ้านเกิดตัวเอง
6500ไมล์ โอเค 300000 มันก็แพงอยู่นะ แต่พอเรา
มาอยู่นี้จะเข้าใจเลย มีเงินเป็นล้านๆ ก็หาประสบการณ์
แบบนี้ไม่ได้ ไม่มีสักวินาทีเลย ที่คิดว่า ตัดสินใจผิด
ที่ทิ้งทุกอย่างมาอยู่ที่นี้ อยากบอกเพื่อนๆ เยอร เหนือ ว่า
เชื่อเราเหอะ ตัดสินใจไม่ผิดหรอก อย่าไปฟังคำพูดคนไทย
ที่ว่า คนที่นี้เย็นชามั้ง อย่างโน้น อย่างนี้ มาสัมผัสเองจะรู้
พวกเขาไม่ได้แตกต่างอะไรจากพวกเราเลย เรารู้สึกแย่
ที่ก่อนมา มองคนที่นี้ในด้านลบไว้ มาเจอจริงๆ หลงรัก
ความ อบอุ่นของคนที่นี้มาก ขอให้เพื่อนๆ โชคดี กับ
เส้นทางของตัวเองนะ เรายอมรับ บางคนอาจไปเจอ
สถานะการณ์ที่แตกต่างจากเรา คงไม่ได้โชคดีกันทุกคนหรอก
แต่ก็อยากให้จำไว้ โชคชะตา มักมีคำถามให้เราหาคำตอบเสมอ
ทุกอย่างมันมีสองด้าน หาด้านที่ดีของมันให้เจอ แล้วยึดติดกับมัน
ไว้ มีอะไรอยากถาม แอดมาคุย ยินดีแนะนำเสมอ
[email protected]
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: PUN GER SH#49 on April 22, 2010, 09:58:51 PM
ใครบอกว่าคนเยอรมันเย็นชา ขอบอกเลยว่าไม่จริงเลยครับ
ใครลองได้มารู้จัก ได้เป็นเพื่อนกับพวกเขา แบบเป็นเพื่อนกันจริงๆ
จะรู้ได้เองเลยว่าเขาอบอุ่นกันแค่ไหน

ขอบอกไว้เลยว่าตอนก่อนมา คนบอกเอาไว้ อย่างนู้น อย่างนี้
คนเยอรมันยิ้มยาก เครียด
อย่าไปเชื่อครับ
มาเองแล้วจะรู้จริงๆ อันนี้

อะไรจะเกิดก็อยู่ที่ตัวเราแหล่ะ ว่าจะเปิดใจรับได้แค่ไหน
ถ้าใจเราเปิดกว้าง รับได้ วัฒนธรรมมันต้องแตกต่างกันอยู่แล้ว อยู่กันคนละซีกโลก
บางทีก็อาจจะมีไม่เข้าใจกันบ้าง หรือมองว่าแปลก แต่นั่นก็เป็นการมองจากมุมมองของเราเอง
มันต้องเปิดใจจริงๆนา การเป็น นร แลกเปลี่ยนเนี่ย

ถามตัวเอง ว่าถ้าเราแค่อยากมาเที่ยว แค่มีเงิน ใครๆก็มาได้
แต่จะให้ได้อะไรกลับไปแบบนี้ มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่มีทาง

เจอ ปรับตัว รับให้ได้ ทุกอย่างก็จะดีเอง

โครตจะมีความสุขเลยครับ ที่ได้มาเยอรมัน !
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: POOM GER#49SH on April 22, 2010, 11:42:11 PM
แน่นอน ถ้าปรับตัวได้ ชีวิตจะมีความสุขเหมือเราคนนึงนี่แหละ 5555+ ตอนนี้อยู่ในช่วงปรับตัวอยู่อะ

เรื่องคนเยอรมันยิ้มยากนั้นไม่จริง แต่คบยากนั้นอีกเรื่อง 555+

แค่เดินเข้าไปทีกแล้วทำหน้าเบื่อใส่ มันเรื่องปกติครับ ตอนแรกเรามองว่ามันไม่ปกติไง กลับมาบ้านร้องไห้ แค่นั้น 55555+
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: Sun In SaNtA MaRiA on April 22, 2010, 11:52:40 PM
Krit

Update weiiiiiii!!!!!!

I want to follow yours, Arhhhhh Drama Romantic Wowwww
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: Pittawat.battle on April 23, 2010, 12:17:38 AM
ความเห็นส่วนตัว จะขอแทนตัวเองว่าพี่แล้วกัน ง่ายดี

ในชีวิตคนเราอ่ะ มันก็ต้องมีสุข มีทุกข์ปนกันไป ไม่มีใครที่เกิดมาสุขตลอดเวลาหรอก เวลาเรามีความทุกข์ มันก็เหมือนตัววัดความสามารถของเรา ว่าเรามีความสามารถที่จะผ่านเวลาแย่ๆเหล่านั้นไปหรือป่าว พี่รู้มันไม่ง่ายหรอก กับการอยู่ต่างประเทศ กับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่น้องลองคิดดูว่า ถ้าชีวิตน้องมีแต่ความสุขอย่างเดียว น้องก็จะไม่มีวันได้รับรู้รสชาติของความสุขอย่างแท้่จริงเลย เวลาน้องผ่านความทุกข์ที่น้องมีไปได้ แม้มันจะเป็นเพียงสิ่งที่คนอื่นอาจจะมองว่า มันเล็กน้อย แต่น้องจะรู้สึกดีมาก และมีความสุขกับมันได้ทุกครั้งที่น้องคิดถึงมัน

พี่ไม่เคยคิดเสียใจ ที่พี่ตัดสินใจมาร่วมโครงการแลกเปลี่ยน พี่อาจจะโชคดี ที่พี่มีเพื่อน เจอกลุ่มคนที่มีอัธยาศัยดี แต่พี่จะไม่บอกรุ่นน้องว่า ทุกคนจะต้องเจอแบบนี้ เพราะ ทุกคนจะได้เจอแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ว่าเราจะอยู่ในจุดจุดไหน หรือเราจะมีความพยายามมากน้อยแตกต่างกันเท่าไหร่ แต่พี่จะบอกน้องๆทุกคนว่า ตั้งใจกับตัวเองไว้ว่า หนึ่งปีนี้มันจะเป็นปีที่เรามีความสุขกับมัน เราจะทำให้ได้

อย่างที่กริดบอก เหรียญมันมีสองด้าน เวลาน้องมองให้มองทั้งสองด้าน ถ้าน้องได้เพื่อน ก็คิดซะว่า เออมันโชคดีของเรา ที่เราได้มีเพื่อนที่ไม่เคยแม้แต่จะรู้จัีกกันมาก่อน แต่เค้าก็รักเรา ช่วยเหลือเรา เห็นใจเรา อะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าน้องไม่มีเพื่อน ก็คิดซะว่า มันสอนให้น้องรู้ว่า ที่ไหนมันก็ไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา ถึงแม้ยุโรปจะเจริญกว่าไทยมากมายขนาดไหน แต่จากใจพี่เลย พี่ก็ยังรักเมืองไทยเหมือนเดิม เมืองไทยก็เป็นยังงี้ มันก็เป็นมาตั้งแต่พี่เกิด พี่ก็รู้จักประเทศไทยแบบนี้มานาน  ถ้าน้องได้พยายามกับสิ่งไหนจนเต็มที่แล้ว ผลมันไมไ่ด้ออกมายังใจหวัง แต่อย่างน้อย มันก็ให้บทเรียนกับน้อง ให้น้องได้เรียนรู้ว่า โลกความเป็นจริง มันก็เป็นเงี้ย มันต้องมีทุกข์ สุข แตกต่างกันไป อยู่ที่ใจคนเรา ว่าจะรับกับมันได้มากน้อยขนาดไหน บางคนเลือกที่จะถอย ในขณะที่บางคนคิดที่จะชนกับมัน เพื่อให้ตัวเองเกิดทักษะในการดำเนินชีวิต

ถ้าน้องอยู่ไป น้องจะค่อยๆเห็นทักษะ การพัฒนาของตัวเองเยอะแยะ ทั้งความคิด ความอ่าน โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น กล้าที่จะตัดสินใจได้เฉียบขาด มีความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ไม่โลเล ทันคนมากขึ้น เปิดใจ กล้าที่จะยอมรับความเป็นจริง กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆเพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่ดีักว่า จุดที่ดีกว่า พัฒนาตัวเอง รู้คุณค่าของเวลา นั่นแหละ สิ่งที่หาไม่ได้ แม้น้องจะจ่ายเงินมากมายเป็นล้าน มันก็ซื้อสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เลย

น้องจะต้องเป็นคนเลือกเอง ว่า หนึ่งปีจะทำให้น้องยิ้มกับมันทุกครั้งที่นึกถึง หรือจะทำให้น้องหงุดหงิด เศร้า ไม่อยากพูดถึงมันเลย อยู่ที่ตัวน้องเองทั้งนั้น เวลาไม่ยาวเลย กับหนึ่งปี แต่มันก็มากพอจะให้อะไรดีๆกับชีวิตของตัวเอง ถือซะว่า ให้รางวัลชีวิตกับตัวเองก็แล้วกัน ถึงหนึ่งปีจะเป็นเหมือนฝัน แต่ก็ขอให้มันเป็นฝันที่ดีของเราก็แล้วกัน แล้วพอกลับไปไทยก็จะไม่มีวันได้ทำ ได้รู้สึกแบบนี้อีกแล้ว เก็บเกี่ยวมันให้มากที่สุด แล้วจะได้ไม่เสียใจ

อดีต คือความทรงจำ
อนาคต คือ ความลับ
ปัจจุบัน คือ รางวัลของชีวิต

Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: FeRn Ger[sh]#48 on April 23, 2010, 12:28:05 AM
ถ้าจะบอกว่า ไม่ให้เชื่อคนที่ว่าว่าคนเยอรเย็นชา เราว่าก็ถูกนะ แต่ถ้าจะพูดรวมๆว่า คนเยอรไม่เย็นชา เราก็ไม่เห็นด้วย คนที่นี่ก็เหมือนคนทั่วๆไปที่มีขึ้นๆลงๆ คำว่าเย็นชา ที่ทุกคนใช้กัน

จริงๆมันไม่ใช่แบบนั้น แค่เค้าไม่เข้าหามากเท่าไหร่ แต่ถามว่าทุกคนไหม? ไม่หรอก! สำหรับคนไทย เวลาเจอชาวต่างชาติ ก็แบบ เฮ้ย ย ย ฝรั่ง แต่สำหรับคนที่นี่ เค้าไม่ใช่อย่างนั้น

ก็เลยทำให้หลายๆคนพูดกันว่า คนเยอรมันเย็นชา แต่เรารู้สึกนะ ว่าคนเยอรใจดี ทุกๆที่ในโลกมีที่เฟรนลี่กับไม่เฟรนลี่อยู่รวมกันอยู่แล้ว ถ้าจะบอกเด็ดขาดไปเลยว่า อย่าไปเชื่อใครๆที่ไป

พูดว่าคนเยอรอ่า เย็นชาอย่างโน้น อย่างนี้ <--- อันนี้เห็นทีว่าจะไม่เห็นด้วยซักเท่าไหร่ คนที่พูดอ่า ยังเห็นโลกแค่ด้านดียว  แต่ที่บอกให้มาสัมผัสเอง ใช่!

แน่นอนว่าการแลกเปลี่ยน มันคงไม่มีใครที่จะมีแต่เรื่องดีตลอดเวลาหรอก แล้วบอกไว้ได้เลยว่า อย่ามองให้มันลบ แล้วก็อย่ามองให้มันบวก ง่ายๆคือ ให้มันว่างไว้ แล้วเราก็รอ

ดูว่ามันจะเป็นยังไง จะได้เห็นโลกไง อย่าคาดหวัง อย่าลืมว่าโลกนี้ มันมีทั้งโชคดีและร้าย


เราเห็นด้วยนะที่ว่ามีเงินมาเที่ยวเท่าไหร่ ก็ไม่เท่ามาใช้ชีวิตอย่างนี้หรอก : ) เสียเงินซื้อรูปวาดอ่า ยังเห็นแค่สีกับความสวยงาม แต่ถ้าเสียเงินซื้ออุปกรณ์มาวาด เราจะได้เห็น ตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมกับความรู้สึก ที่มันมาด้วยกัน หวังว่าทุกคนจะไม่ งง นะ

ใครจะมาเยอรมันนะ ก็ขอแสดงความยินดีด้วย ที่จะได้มาเห็น ว่ามันเป็นยังไงกันแน่ คำบอกเล่าของคนเป็นล้าน มันเทียบไม่ได้ กับที่เรามาสัมผัสมันเอง โชคดีนะ มันต้องมีเรื่องดีๆ อยู่แล้วแหละ สุดท้ายแล้วมันก็อยู่ที่ตัวอยู่ีดี
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 23, 2010, 01:41:33 AM
ความเห็นส่วนตัว จะขอแทนตัวเองว่าพี่แล้วกัน ง่ายดี

ในชีวิตคนเราอ่ะ มันก็ต้องมีสุข มีทุกข์ปนกันไป ไม่มีใครที่เกิดมาสุขตลอดเวลาหรอก เวลาเรามีความทุกข์ มันก็เหมือนตัววัดความสามารถของเรา ว่าเรามีความสามารถที่จะผ่านเวลาแย่ๆเหล่านั้นไปหรือป่าว พี่รู้มันไม่ง่ายหรอก กับการอยู่ต่างประเทศ กับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่น้องลองคิดดูว่า ถ้าชีวิตน้องมีแต่ความสุขอย่างเดียว น้องก็จะไม่มีวันได้รับรู้รสชาติของความสุขอย่างแท้่จริงเลย เวลาน้องผ่านความทุกข์ที่น้องมีไปได้ แม้มันจะเป็นเพียงสิ่งที่คนอื่นอาจจะมองว่า มันเล็กน้อย แต่น้องจะรู้สึกดีมาก และมีความสุขกับมันได้ทุกครั้งที่น้องคิดถึงมัน

พี่ไม่เคยคิดเสียใจ ที่พี่ตัดสินใจมาร่วมโครงการแลกเปลี่ยน พี่อาจจะโชคดี ที่พี่มีเพื่อน เจอกลุ่มคนที่มีอัธยาศัยดี แต่พี่จะไม่บอกรุ่นน้องว่า ทุกคนจะต้องเจอแบบนี้ เพราะ ทุกคนจะได้เจอแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ว่าเราจะอยู่ในจุดจุดไหน หรือเราจะมีความพยายามมากน้อยแตกต่างกันเท่าไหร่ แต่พี่จะบอกน้องๆทุกคนว่า ตั้งใจกับตัวเองไว้ว่า หนึ่งปีนี้มันจะเป็นปีที่เรามีความสุขกับมัน เราจะทำให้ได้

อย่างที่กริดบอก เหรียญมันมีสองด้าน เวลาน้องมองให้มองทั้งสองด้าน ถ้าน้องได้เพื่อน ก็คิดซะว่า เออมันโชคดีของเรา ที่เราได้มีเพื่อนที่ไม่เคยแม้แต่จะรู้จัีกกันมาก่อน แต่เค้าก็รักเรา ช่วยเหลือเรา เห็นใจเรา อะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าน้องไม่มีเพื่อน ก็คิดซะว่า มันสอนให้น้องรู้ว่า ที่ไหนมันก็ไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา ถึงแม้ยุโรปจะเจริญกว่าไทยมากมายขนาดไหน แต่จากใจพี่เลย พี่ก็ยังรักเมืองไทยเหมือนเดิม เมืองไทยก็เป็นยังงี้ มันก็เป็นมาตั้งแต่พี่เกิด พี่ก็รู้จักประเทศไทยแบบนี้มานาน  ถ้าน้องได้พยายามกับสิ่งไหนจนเต็มที่แล้ว ผลมันไมไ่ด้ออกมายังใจหวัง แต่อย่างน้อย มันก็ให้บทเรียนกับน้อง ให้น้องได้เรียนรู้ว่า โลกความเป็นจริง มันก็เป็นเงี้ย มันต้องมีทุกข์ สุข แตกต่างกันไป อยู่ที่ใจคนเรา ว่าจะรับกับมันได้มากน้อยขนาดไหน บางคนเลือกที่จะถอย ในขณะที่บางคนคิดที่จะชนกับมัน เพื่อให้ตัวเองเกิดทักษะในการดำเนินชีวิต

ถ้าน้องอยู่ไป น้องจะค่อยๆเห็นทักษะ การพัฒนาของตัวเองเยอะแยะ ทั้งความคิด ความอ่าน โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น กล้าที่จะตัดสินใจได้เฉียบขาด มีความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ไม่โลเล ทันคนมากขึ้น เปิดใจ กล้าที่จะยอมรับความเป็นจริง กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆเพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่ดีักว่า จุดที่ดีกว่า พัฒนาตัวเอง รู้คุณค่าของเวลา นั่นแหละ สิ่งที่หาไม่ได้ แม้น้องจะจ่ายเงินมากมายเป็นล้าน มันก็ซื้อสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เลย

น้องจะต้องเป็นคนเลือกเอง ว่า หนึ่งปีจะทำให้น้องยิ้มกับมันทุกครั้งที่นึกถึง หรือจะทำให้น้องหงุดหงิด เศร้า ไม่อยากพูดถึงมันเลย อยู่ที่ตัวน้องเองทั้งนั้น เวลาไม่ยาวเลย กับหนึ่งปี แต่มันก็มากพอจะให้อะไรดีๆกับชีวิตของตัวเอง ถือซะว่า ให้รางวัลชีวิตกับตัวเองก็แล้วกัน ถึงหนึ่งปีจะเป็นเหมือนฝัน แต่ก็ขอให้มันเป็นฝันที่ดีของเราก็แล้วกัน แล้วพอกลับไปไทยก็จะไม่มีวันได้ทำ ได้รู้สึกแบบนี้อีกแล้ว เก็บเกี่ยวมันให้มากที่สุด แล้วจะได้ไม่เสียใจ

อดีต คือความทรงจำ
อนาคต คือ ความลับ
ปัจจุบัน คือ รางวัลของชีวิต



ไม่มีคำว่า ท่านกริดแล้ว หรอ วะ 55555

ยังฮาจดหมายเก่าเมิงไม่หายเลยอ้ายแท็บ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 23, 2010, 01:44:22 AM
นี้พวกเรา ไม่ได้ ได้ เปอรฺ์เซนค่าโปรโมทประเทศ

จาก เอเอฟเอสเยอรมันนะคราบ มาเชียร์ประเทศตัว

เองกันใหญ่เลยหว่ะ 5555
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: P POR#48 on April 23, 2010, 04:48:15 AM
นี้พวกเรา ไม่ได้ ได้ เปอรฺ์เซนค่าโปรโมทประเทศ

จาก เอเอฟเอสเยอรมันนะคราบ มาเชียร์ประเทศตัว

เองกันใหญ่เลยหว่ะ 5555

เหอะๆ ก้อมันกระทู้เด็กเยอรมัน นิ ฮ่าๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: Aa on April 24, 2010, 08:17:31 PM
โห เจ๋งว่ะ เราจะไปเจอมั้งมั๊ยเนี่ย อยากเจอๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 25, 2010, 03:32:48 AM
โห เจ๋งว่ะ เราจะไปเจอมั้งมั๊ยเนี่ย อยากเจอๆ

อยู่ที่ตัวเองแล้วคร็าบบบ

ว่าจะได้สังคมแบบไหน
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: ::NewLy..,GER[SH]#49~:: on April 25, 2010, 05:29:56 PM
credit goo la sassssssssssssss 55+

I krisdi yak ja pragad hai lok roo si 55+
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 25, 2010, 07:43:50 PM
pai arn Part 2 di sasss

Credit for E buam NEW 5555
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: ::NewLy..,GER[SH]#49~:: on April 26, 2010, 02:10:21 AM
mung BUAM gwa goo ik sas

pung palor goo yang mai pood!!
i na hiak 55+
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 2 since 17/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 26, 2010, 04:04:27 AM
Part 3 (We will wait)

หลังจากเหตุการ เปียกฝนเมื่อสามสัปดาห์ก่อน
มา มันก็ไม่ได้มีอาไรมากครับ ทุกอย่างไปได้
ราบๆรื่นๆ ไม่ได้มีอาไรเปนพิเศษอาไร แต่อา
ทิตย์หน้านี้ มีแน่ครับ จะเปนอาไรขอเกบไว้ก่อน
วันนี้ก็เลยอยาก เล่าถึงวันแรกที่ผมเจอเธอสะหน่อย
ว่าทุกอย่างมันเริ่มต้นมายังไง ผมถึงมาเพ้อเจ้อใน
บอร์ดให้เพื่อนๆได้ฟังจนทุกวันนี้

วันนี้ผมนั่งเขียนไดอารี่เสดก็ลองเปิดอ่านหน้าเก่าๆ
ดู ซึ้งไดอารี่เล่นนี้ ผมเริ่มเขียนมันใหม่ ในคืนวันก่อน
ออกเดินทาง แล้วผมตลกกับตัวเองมาก ที่ผมใช้ไปเกือบๆ
สี่สิบหน้าในช่วง หนี่งอาทิตย์แรก เขียนมันทุกอย่างตั้ง
แต่ท่านอนของหมาไปยันสีของรถตำรวจ เหอะๆ
หลังๆเริ่มลดความถี่กานเขียนจากวันละครั้งเปน สามวัน
จากสามวันเปนหนึ่งอาทิตย์ จนตอนนี้เปนแล้วแต่อารม

ผมมานึกย้อนไปถึงวันแรกที่ไปโรงเรียน โดยพยายามนึก
ภาพและอ่านจากไดอารี่เอา จำได้ว่าวันนั้นมันเปนวันที่หนาว
มาก อากาษ-8 degree  ผมใส่เสื้อสี่ชั้น เพราะกลัวหนาว
ตาย มากๆ ให้ตายเหอะ มันเหมือนส่งอูฐไปอยุ่ขั้วโลกเหนือ
ยังไงยังงั้น ผมคงยังไม่ได้บอกสินะ ว่าปีนี้ที่เยอรมัน มัน
เปนฤดูหนาวที่ยาวนานและหนาวที่สุด ในหรอบหลายสิบปี
ในเมือฃผมนะหรอ มันยาวนานมากที่สุดนับแต่ปี 1968 โน่น
ปรกติมีหิมะไม่เกินสามอาทิตย์ ปีนี้มันมีเกือบ สามเดือน
แม่แต้คนเยอเองยังบอกว่ามันหนาว แล้วผมหล่ะ ไม่ได้
เกินมาเปนนกเพนกวินสะด้วยสิ

ความรู้สึกในเช้าวันนั้น ผมบอกคุณไม่ถูกหรอกนะ ผมกไม่ได้
คิดไรด้วยซ้ำ ผมยังไม่รุ้ตัวเลยว่านี้มันวันแรกที่ต้องไปเรียน
นะ ผมก็แค่ อืม ตื่นๆ จัดของใส่เป๋า หนิบหนมปัง แล้วก็ออกไป
เรียน อารมแรกที่ไปถึงโรงเรียน ผมตกใจกับจำนวนนักเรียนที่
ทิม โฮสบราเธอของผมบอก เขาบอก ใน แคมปัสของ โรงเรียน
มีนักเรียนทั้ฃหมด ประมาณ หนึ่งพันสองร้อยคน ตั้งแต่ฮัมท์ชูเล่อ
ไปจนโอเบอร์ชูเลอร์ มันเยอะกว่าที่ผมคิดไว้ โอเคอาจไม่เท่าที่ไทย
ก็เหอะ แต่ผม อยากมาอยู่แบบสงบๆนิ เราไปพบโคออดิเนเตอร์
ของผม แล้วเขาก็พาไปพบอาจารณ์ประจำตัว ที่จะคอยแนะนำ
อาไรที่จำเปนกับผมในโรงเรียน จากนั้นก็ เพื่อนในคลาส
คนนึง ลิซ่า โดยตารางของผมในอาทิตย์แรก ผมจาตามลิซ่า
ไปเรียนทุกคลาส แล้วในอาทิตย์ต่อมา ผมจึงเลือกสาย
ของตัวเอง เพราะผมอยู่ในเกรด สิบเอ็ดมันจึงไม่มีห้องเรียน
แน่นอน แต่มันดีที่จะได้เพื่อนในกลุ่มที่กว้างมากๆ ไม่จำกัดแค่
ในห้อง ลิซ่าพาผมไปแนะนำกับเพื่อนๆ ในเกรดเกือบจะทุกคน

ตอนพักในวันแรก ผมก็นังคุยกับพวกเพื่อนๆใหม่ ที่ขำคือ
มันยากมากนะ ที่จะเรียกชื่อเพื่อนๆทุกคนให้ถูก ผมใช้เวลา
ประมาณสามอาทิตย์จึงจะจำทุกคนได้แม่นๆ ในคาบสุดท้าย
ผมเรียนภาษาอังกฤษ มันเปนวิชาเดียวที่ผมเรียนได้มาจน
ตอนนี้ อาจารก็ดูเหมือนจะสนใจในผมมาก เราใช้เวลาในคาบแรก
คุยกันเกี่ยวกับตัวผม ว่าผมมาจากไหน ผมมาที่นี้ทำไม และเพื่อนๆ
ก็ถามโน่นถามนี้กันตลอดชั่วโมง ผทว่าในชั่วโมงนี้แหละที่ผมเจอ
A  เปนครั้งแรก เธอยกมือขึ้นแล้วถามชื่อจริงๆของผม ในภาษาไทย
เพราะคนที่นี้ทุกคน เรียก ผม ว่า คริส เพราะชื่อของผมมัน สะกด
Krisdi ทุกคนเลยเรียกผมว่าคริส  มาตั้งแต่พวก บีทอยเออ ที่สนามบิน
แล้ว จบคลาส ผมก็ไปรอโฮสแดดผมมารับที่หน้าโรงเรียน ผมรอนาน
มากจน มันไม่มีใครเหลือ คนส่วนใหญ่อยู่กันในตึก เพราะมันหนาวมาก
แล้วอยู่ดีๆ หิมะก็เริ่มตก แต่ไม่หนักหรอก มันเปนเหมือนเศษหิมะมาก
กว่า ท่าเทียบกับหิมะเจงๆที่ผมเจอในสามวันต่อมา

ผมยืนอยู่บ่นๆในใจไอ้ทิมมันลืมป่าวเนี่ย ว่ากูเรียนสิบคาบนะวันนี้
มันลืมบอกพ่อ ป่าวหว่า แล้วก็มีเสียงตะโกนเรียกชื่อผม มา
Hey Chris ทอมครับ เพื่อนสนิทของผมคนนึง ซึ่งสนิทกันมา
จนบัดนี้ ทอมกับเพื่อนๆในเกรด สิบเอ็ดกลุ่มหนึง ออกมารอเปนเพื่อน
ผม จำได้ว่าเราคุยกัน ถึงเรื่องผมอีกหล่ะ พวกเขาถามถึงเรื่อง
ว่าผมบินมานี้อ่ากี่ชั่วโมง ผมนึกว่าพวกเขาออกมารอรถเมล์

แต่พอรถเมล์มา บางคนก็ขึ้นรถไป แต่ทอมกับเพื่อนอีก สามคน
อ้อ ผมลืมบอกไป ทอมนี้อาจเหมือนชื่อผู้ชาย แต่ทอมเนี่ยเปน
ผู้หญิงนะครับ ชื่อจริงเธอนะ ทอมเกิ้ลด หรืออาไรสักอย่าง ผม
เรียกเธอทอมตั้งแต่วันแรกจนปัจจุบัน ทอมกับเพื่อนอีกสามคน
ผมจำชื่อไม่ได้หมดนะว่าเปนใคร แต่หนึงในสามนั้นคือ A ผม
บอกะพวกเขาว่าจะไปก่อนก็ได้ผมรอโฮสผมได้ พวก เขาหันไป
มองหน้ากันแล้ว A ก็พูดกับผมว่า We will wait ผมจำชื่อเธอไม่
ได้หรอกนะตอนนั้น ในไดอารี่ผมนะเรียกเธอว่า สาวแว่น เหอะๆ
ตอนนั้นคงเปนจุดเริ่มต้นในความรู้สึกทุกๆอย่าง ที่ผมมีให้เธอตอน
นี้ ผมว่าทุกอย่างมันเริ่มจากจุดๆนี้จริงๆ พวกเขาทั้งสี่ รอจนโฮส
ของผมมารับ มันเปนความประทับใจแรกๆ ที่ผมมีให้ โรงเรียนนี้

 เพราะเมื่อผมอ่านจากไดอารี่ตัวเอง ผมสังเกตุว่า ผมเริ่มรู้จักA
และสนิทกันมาเริ่มจาก เหตุการนั้นเจงๆ ในสองอาทิตย์แรก
ผมจำชื่อเธอไม่ได้ด้วยซ้ำแม้เราจาคุยกันบ่อยๆ จนกระทั่ง
อาทิตย์ที่สองในวันพฤหัสบดี หลังจากที่ต้องคอยแจกเมล์ให้
เพื่อนๆทีละคนๆ ผมเลยจัดการ เขียนเมล์ตัวเอง เอาไปแปะไว้
ที่บอร์ดหลังห้องเรียนสะเลย พอผมกลับถึงบ้าน ก็นั่งรับแอด
เฟสบุคกระจายย ผมเลยรู้ชื่อเธอจริงๆ จำแม่นๆ ก็จากเฟสบุค

เอาเจงๆผมไม่ค่อยคุ้นกับชื่อคนที่นี้นัก ก็ชื่อคนไทยกับคนยุโรป
มันต่างกันนะ และที่สำคัญเพื่อนๆนะ จำชื่อใหม่ แค่หนึ่งชื่อ คือชื่อ
ของผม แต่ผมนะต้องจำชื่อของพวกเขาในเวลาเดียวกัน เป็นร้อย
ชื่อนะ มันไม่ง่ายหรอกที่จะจำทั้งหมดได้ในไม่กี่วัน

A เองก็เหมือนกัน หลังจากผมจำชื่อเธอได้กำแพงมันก็ริ่มหายไป
ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่เรียกชื่อเธอถูกหน่ะ เธอให้ผมเรียกซ้ำไปซ้ำ
มาอยู่หลายรอบเลย ยังมีที่เธอให้ผมพยายามสอนภาษาไทย
เหมือนกันนะ บางคำง่ายๆอย่าง สวัสดีค่ะ วันจันทร์ วันอังคาร
ขนมปัง สมุด ปากกา อาไรก็ว่าไป ทุกอย่าง มันเริ่มจากเรื่อง
เล็กๆแบบนี้จริงๆ เริ่มจาก วันหนาวๆวันนั้น เริ่มจาก การไม่ตรง
เวลา ของโฮสผม แต่ก็ต้องขอบคุณนะว่าไหม

บางครั้ง ชีวิตคนเรา อาจเปลี่ยนจากหน้ามือเปนหลังมือได้ในพริบตา
ใครจะรู้ตื่นมาวันนี้จะเจอกับอะไรมั้ง โชคชะตาจะมีอะไรรอคุณอยู่
แต่สาบานได้ผมไม่เคยเชื่อเรื่องโชคชะตาเลย จนกระทั่งมาอยู่ที่นี้
ผมบอกไม่ได้ว่า เรื่องของผมมันจะจบแบบไหน แต่ท่าท้ายที่สุด
แล้วมันไม่เปนแบบที่คิด ผมว่าอย่างน้อยผมก็มีช่วงเวลาน่าจดจำ
เหล่านี้ที่มันจาติดตัวผมไปตลอดกาล แต่ยังไงก็ยังสู้นะครับ
อาทิตย์หน้ารับรองมีไรมาเล่าแน่ มีแผนใหญ่ไว้แล้วว บอกไม่ได้ๆ
อวยพรด้วยนะครับ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: MetalFreak on April 26, 2010, 10:15:38 AM
อ่านเรื่องไอ้น้องกิดแล้วสงสารไอ้น้องภูมิว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
พี่เขียนทุกวันนะได เขียนมากน้อยแล้วแต่อารมณ์ แต่สองวันสุดท้ายก่อนกลับกับวันกลับยังไม่ได้เขียน นึกแล้วมันเศร้า
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: POOM GER#49SH on April 26, 2010, 02:22:11 PM
อยากจะบอกว่าเรียนมาเดือนนึง ยังจำชื่อเพื่อนไม่ได้เลย 55555
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: J-MiKA on April 26, 2010, 09:09:43 PM
น่าระทึกใจดีจริงๆ 55
อยากรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น !
รออ่านนะคะ  ขอให้โชคดีกับแผนการอันยิ่งใหญ่ : D
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: Pairaya SH on April 26, 2010, 10:53:22 PM
geil geil und geil ! ^^
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: LHiN Ger[SH]#49 on April 26, 2010, 11:09:52 PM
Viel Glück ;D
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: Mint" Ger49. on April 27, 2010, 10:55:43 AM
เป็นกำลังใจให้น้า

ติดตามรออ่านอยู่จ้า สนุกมากเลย =)

ปล. ยอมรับว่านี่เป็นกระทู้แรกที่ติดตามอ่านจริงจังเลยนะเนี่ย 555+
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: P@t!p@n NOR#49 on April 27, 2010, 12:34:42 PM
โชคดีครับ

สนุกดี

เหมือนนิยายเลย

555
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: BlackMiracle on April 27, 2010, 02:36:29 PM
ติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัย
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 28, 2010, 01:44:42 AM
อยากเห็นหน้าคนที่โหวต ข้อสองหว่ะ 55555
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 28, 2010, 01:46:04 AM
อ่านเรื่องไอ้น้องกิดแล้วสงสารไอ้น้องภูมิว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
พี่เขียนทุกวันนะได เขียนมากน้อยแล้วแต่อารมณ์ แต่สองวันสุดท้ายก่อนกลับกับวันกลับยังไม่ได้เขียน นึกแล้วมันเศร้า

ผมก็พยายามเขียนบ่อยๆอ่าเพ่ เหอะๆ
ก็คงจริง ผมมันลั้นลาอ่าเพ่ เหอะๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 28, 2010, 01:48:02 AM
น่าระทึกใจดีจริงๆ 55
อยากรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น !
รออ่านนะคะ  ขอให้โชคดีกับแผนการอันยิ่งใหญ่ : D

เหอะๆบอกไม่ได้ครับว่าจาเกิดอาไร เพราะยังไม่ได้ทำอาไรเลย เหออะๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 28, 2010, 02:02:07 AM
เป็นกำลังใจให้น้า

ติดตามรออ่านอยู่จ้า สนุกมากเลย =)

ปล. ยอมรับว่านี่เป็นกระทู้แรกที่ติดตามอ่านจริงจังเลยนะเนี่ย 555+

โหขนาดนั้นเลย ขอบคุณมากนะครับ มีกำลังใจมาก

โชคดีครับ

สนุกดี

เหมือนนิยายเลย

555

ท่าเปนนิยายก็ดีสิครับ เพราะท่าเปนนิยาย เราก็จะสามารถ
แอบเปิดดูตอนท้ายๆได้ว่ามันจะจบยังไง เหอะๆ

ติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัย

ขนาดนั้นเลยรึ เหอๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: ::NewLy..,GER[SH]#49~:: on April 29, 2010, 02:31:34 AM
อยากเห็นหน้าคนที่โหวต ข้อสองหว่ะ 55555


Ich mache das!! 5555555555555555+
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 29, 2010, 03:40:30 AM
goo wa lae

1 nai nan tong pen E Buam
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: ~ ♥ หมิวจัง ★☆ Norway#49 ♦ ♫ on April 29, 2010, 03:17:17 PM
คนเราจะรักกันมันเริ่มจากความผูกพันจิงๆเนอะ

^^ มันถึงจะเป็นความรักที่สมบูรณ์และลงตัว ถาวร อยุ่ด้วยกันนานที่สุด

(อ่านนานแล้วพึ่งจะมาเม้น โทดทีนะกิด 555+)

ปล. A น่ารัก อยากเจอ กลับมาไทยพามาด้วยดิ 55+
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 29, 2010, 05:17:13 PM
คนเราจะรักกันมันเริ่มจากความผูกพันจิงๆเนอะ

^^ มันถึงจะเป็นความรักที่สมบูรณ์และลงตัว ถาวร อยุ่ด้วยกันนานที่สุด

(อ่านนานแล้วพึ่งจะมาเม้น โทดทีนะกิด 555+)

ปล. A น่ารัก อยากเจอ กลับมาไทยพามาด้วยดิ 55+

เหอะๆขนาดนั้นเลย หรอ ห้า ห้า ได้ก็ดีสิหมิว

อย่าพึ่งถึงตอนกลับเลย นึกแลวใจหายวับ

เอาตอนนี้ให้ดีก่อนดีก่า หลังๆมาเราโคตรยุ่งอ่า

อาทิตย์นี้แทบไม่ได้คุยกานเลย ไม่น่าไปลงชมรม

บาสเลย โคชแมร่งโหดโคตร ซ้อมก็โคตรเหนื่อย

โดนวิดพื้นไปวันละเปนร้อย นี้ซ้อมบาสหรือฝึกไปรบไม่รู้
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: ~ ♥ หมิวจัง ★☆ Norway#49 ♦ ♫ on April 29, 2010, 05:19:50 PM
อ่าวกำ - -*

คนไทยเราถึกอยุ่แล้ว ไม่ต้องห่วงงง!!!

ไทยนี้รักสงบบบ(จิงหรอ) แต่ถึงรบไม่ขลาด!! 55+

สู้โว้ยยยยยย !!
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 29, 2010, 05:25:36 PM
5555+ู เอาเพลงชาตมาเลยเว้ย

เดียวอาทิตยนี้จาเขียนเรื่องเพื่อนกับ

ทีมบาสใหฟัง อันนี้เด็ดมาก ประสบการล้วนๆ

จาได้ลงหนังสือพิมรอบสองแล้วเนี่ย งงโคตร
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: ~ ♥ หมิวจัง ★☆ Norway#49 ♦ ♫ on April 29, 2010, 05:28:36 PM
โหหหห

เพื่อนเราดังเว่ยเฮ้ยยย !! 55+

ช่วงนี้ได้ขี่จักรยานเล่นมั่งเป่า??
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 29, 2010, 05:43:03 PM
โหยยย ไม่อยากจาบอก ทำจักยานโฮสพัง
ไปแล้วหนึ่งคัน ปันๆอยุ่โซ่ขาดคาเท้าเลย งง
แมร่งขาดสะกลางถนนด้วยนะ เกือบตาย
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: ~ ♥ หมิวจัง ★☆ Norway#49 ♦ ♫ on April 29, 2010, 06:09:22 PM
โหยยย พูดซะน่ากัว - -*

5555+
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 30, 2010, 12:01:37 AM
ก็มันน่ากลัวเจงๆนะเว้ยหมิว โคตรตกใจอ่า
กลับมาเล่าให้โฮสฟัง โฮสขำไม่ออก
โฮสบอกจาซื้อจักรยานให้ใหม่เลย งง มาก
เราบอกไม่เอา เอาไปซ่อมก็พอแล้ว
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on April 30, 2010, 02:59:07 AM
ก่อนที่ทุกคนจะหาว่าผม หม้อไปวันๆก็เลยอยากลองเสนอ
อีกมุมนึงของชีวิตที่นี้บ้าง ว่าผมก็มีอย่างอื่นทำนะนอกจาก
ตามเอาใจA อ่า ลองอ่านกันดูครับประสบการณ์ล้วนๆ

http://www.afser.in.th/forum/index.php?topic=5264.จ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: MetalFreak on April 30, 2010, 04:28:01 PM
โหยยย ไม่อยากจาบอก ทำจักยานโฮสพัง
ไปแล้วหนึ่งคัน ปันๆอยุ่โซ่ขาดคาเท้าเลย งง
แมร่งขาดสะกลางถนนด้วยนะ เกือบตาย
เพื่อนพี่จอดจักรยานแล้วล๊อกไว้ กลับมาล้อหน้าหาย= =
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on May 01, 2010, 05:34:58 AM
Part 4(When the rain comes)

เหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ ถือเปนเรื่องที่ผิดความคาดหมายของผม
มันเกิดขึ้นในวันนี้ นอกแผนการทั้งหมด และผมแทบจะรับมันไม่ได้

ในวันนี้มันเปนวันสดใสๆอีกวันหนึ่ง ผมดูพยากรอากาศไว้แล้วตั้งแต่
วันพุธ ผมคิดๆไว้ในใจว่าอยากจะพา A ไปห้องสมุดอีกรอบ เพราะ
เมื่ออาทิตย์ก่อนเราไปห้องสมุดด้วยกันมาแล้วรอบนึงซึ่งผมกะจามา
ลงเล่าเรื่อง พร้อมๆกับแผนการใหญ่ที่ผมวางไว้ไปเลย แต่ก็มาเจอกับ
เรื่องในวันนี้ทุกอย่างคงต้องหยุดไว้แค่นี้ก่อน เช้ามาผมไปโรงเรียนด้วยอารม
สดใสๆวันนี้เปนวันที่อากาศดีมาก ผมใส้แค่เสื้อยิดตัวเดียวไปเรียน ลมเย็นๆ
แดด อุ่นๆ และที่สำคัญต้นไม้เริ่มเปลี่ยนสี ดอกไม้เริ่มออกดอกให้เห็นแล้ว
มันเปนวันที่สวยงามมากที่สุดวันหนึ่งในเยอรมันเลยหล่ะ ผมว่ามันสวย
พอๆกับดอกทานตะวันบาน ที่สระบุรี หรือ งานพืชสวนโลกเมื่อหลายปี
ก่อน เลยหล่ะมั้ง ทุกที่มีแต่สีเขียวผมขี่จักรยานไปเรียนตั้งแต่เจ็ดโมง
แวะดูดอกไม้ต้นไม้ไปเรื่อย ไปถึงโรงเรียนผมไปวางกระเป๋าในห้อง
นั่งพัก วันนี้A มาเรียนเช้ามากปรกติผมจะเจอเธอก็ในคลาสเลยไม่เคย
มาเจอในห้องพัก ผมเลยนั่งคุยกับเธอ และเพราะอาทิตย์นี้เดก เกรด
สิบสาม จะต้องเขียนอาบิทัวกันอีก เราเลยมีวันหยุดยาว จันทร์อังคาร
ไปด้วย เธอบอกว่าอากาศวันนี้ดีนะ ผมก็บอกอืม แล้วหลังจากเลิกเรียน
ว่างปล่าว เธอบอกกะจะไปช็อปปิ้งในเมือง ผมก็เลยออกปากชวนว่า
ไปห้องสมุดกันอีกไหม เธอพยักหน้าแล้วบอก ไปสิ แต่ขอกลับบ้าน
ไปกินข้าวเที่ยงก่อน ผมคงลืมบอกไปสินะ A หน่ะเธอเปนVeggie
เปนมังสวิรัต ผมรู้มาตั้งแต่รู้จักเธอใหม่ๆแล้วนั้นคือสาเหตุที่ผมพา
เธอไปกินข้าวไม่ได้ เธอเปนผู้หญิงที่ออกจะเรื่องมากนิดๆเหมือน
กันนะ แต่เธอไม่เรื่องมากสำหรับผมหรอก สำหรับคนอื่น มักพูด
ให้ผมฟังเสมอ Aหน่ะ ไม่ค่อยจาชอบอาไรเหมือนชาวบ้านเขา
หรอก เธอไม่ชอบดุคอนเสริต ไม่ชอบไปปารตี้ ชอบอยุ่แต่กะหนังสือ
และก็ห้องเรียน เธอได้ 1 ในการสอบทุกครั้ง ทุกคนมักพูดเสมอ
ว่าเธอหน่ะเปน เคลเว่อร์เกิล ของเกรด สิบเอ็ด ผทเหนด้วย เพราะ
เธอเปนคนเดียว ที่พูดอังกฤษกับผมได้แบบไม่ต้องคิดเลย เธอแม่น
ศัพท์มาก ผมก้ไม่ได้เก่งอาไรหรอก ผมว่าผมแย่กว่าเธอด้วยซ้ำ
ผมแค่พอสื่อได้ว่าผมคิดอาไร และต้องการอะไร แค่นั้นเธอหน่ะ
ลากเอาศัพท์จากดิกอ๊อกฟอรด์มาใช้แบบไม่เปลืองเลย

เราตกลงว่าจะไปเจอกันที่เดิม ที่ป้ายรถเมล์ที่เราเคยเจอกัน
ครั้งแรกที่เราไป Phaeno ด้วยกัน ตอนบ่ายสาม ผมนะกลับ
บ้าน มา วางกระเป๋าเก็บของหมดแล้ว ผมลืมนึกไปว่าบ้านเธอ
หน่ะอยุ่ไกลจากเมืองมาก แล้วเราเลิกเรียนกันบ่ายโมง
นัดกันบ่ายสามกว่าเธอจะถึงบ้านแล้วกว่าจะออกมาหล่ะ เธอ
คงลำบากแย่ ผมเลยโทรไปหาเธอ กะจะบอกว่าไม่เปนไร
เรื่องเวลา ช้าๆก็ได้ผมรอได้ เธอก็บอกกลับมา ว่าวันนี้เธอ
มาอยุ่กับป้าเธอในเมืองห่างจากดาวทาวน์แค่ห้านาที เหอะๆ
 
ผมคว้าพิซซ่าจากเตาอบแล้วรีบหยิบกระเป๋า ควบจักรยานไปเลย
ผมปั่นสุดแรงเพราะไม่อยากไปช้าเหมือนคราวก่อน และคราวนี้
ผมก็ไปถึงก่อน ห้าห้า ชนะ ผมคิดในใจ ผมก็นั่งถ่ายรูปรอบๆแถวนั้น
ไปเรื่อยอย่างที่บอกวันนี้อากาศมันดีมาก ทึกคนมีแต่รอยยิ้ม
เด็กเริ่มออกมาวิ่งเล่นในสวนกันแล้ว ผมชอบมากๆ มองไปทาง
ไหนมีแต่เสียงหัวเราะเต็มไปหมด ผมไม่ทันรู้ตัวจนกระทั่งA เดินมา
ถีงผมเธอ สะกิดผมข้างหลังจากแบบที่เราหยอกๆกันที่ไทยแหละ
ที่สะกิดข้างนึงแล้วอยู่อีกข้างนึง แล้วก็ยิ้มเหมือนเคย รอยยิ้มนี้
ที่ผมชินตามาตลอดตั้งแต่รู้จักเธอ มันช่างเข้ากันกับบรรยากาศ
ของวันนี้จริงๆ นะ เราก็เริ่มเดินไปในดาวทาว เธอมาเพื่อช็อปปิ้ง

เอิ่มขอเกริ่น ก่อนนิดๆ ไอ้คำๆนี้หน่ะ มันฟังดูแล้วน่ากลัวมากนะสำหรับ
ผู้ชาย ช้อปปิ้งทันทีที่ได้ยินคำนี้ผม โอ้ววว คิดไปไกลแล้ว เพราะก็รู้
นิสัยผู้หญิงทั่วโลกนั้นเหมือนกันในข้อนี้ คือคงจำทอมได้ เมื่อประมาณ
วันเสาร์สุดท้ายของวันหยุดอีกเตอร์หน่ะ พวกเรานัดกันออกไปที่ดาวทาว
ที่เดียวกันนี้แหละ เมืองผมมันมีแค่นี้จริงๆ มีผม ทอม ลีโอนี่ มาร์ก และก็
ฟิลลิป ซรึ่งผมหน่ะกะจะไปซื้อหูฟังNokia แต่พวกเรานัดเจอกันเพราะพวก
เขาก็บ้านใกล้ๆผมทางเดียวกันและวันนั้นเรานั่งรถเมล์มาด้วยกัน เลย
คือคุณคงนึกไม่ถึง เชื่อไหมว่าในระยะประมาณห้าร้อยเมตรแรก เราใช้
เวลาเดินไปถึงเกือบหนึ่งชั่วโมงก็คุณทอมเธอเล่นหยุดเกือบทุกร้าน
ยิ่งมีว่าที่นางแบบอย่างลีโอนี่มาด้วยแล้ว พระเจ้า คุณเธอเล่นเลือกกันสะ
ไม่แคร์สื่อเลย กะเหมาร้านต้อนรับฤดูใบไม่พลิกันเลยว่างั้น แต่ก็ต้อง
ยอมรับสองคนนี้แต่งตัวเก่งจริงๆ เทียบกับAแล้ว สองคนนี้เขี่ยAตก
เวทีแฟชั่นไปเลย เพลอๆคุณเธอทั้งสองเอาปารีสฮิวตั้นอายเลยหล่ะ

กลับมาที่Aกับผม ผมคิดไว้ว่าเธอก็คงหยุดทุกร้านเหมือน ทอม ผมทำใจ
รอไว้แล้ว เธอเดินผ่านร้านแรก แล้วเจ้าไปดูหาซื้อแจ็คเก็ต แต่เหมือนเธอ
มีลิสของเสื้อผ้าที่เธอต้องการอยุ่แล้วเธอเดินตรงไปที่ล็อกโน้นล็อกนี้
หยิบ ลอง แล้วซื้อ แล้วก็ร้าน สอง ตามมาด้วยร้านที่สาม ใช้เวลารวม
ทั้งหมด 22 นาที ผมจับเวลาจริงๆนะ ผมอยากดูว่าเธอหน่ะแคร์เรื่อง
พวกนี้มากแค่ไหน แต่สไตล์การแต่งตัวเธอหน่ะพื้นๆมาก สีสันไม่ค่อย
จะมี เธอชอบเสื้อผ้าสีพื้นๆ เทา ขาว ดำ น้ำตาล ผมแทบไม่เห็นสีอื่น
นอกจากสี่สีนี้ จะมีบ้างก็เล็กน้อย ผมไม่เข้าไปยุ่งนะเวลาเธอเลือก
ผมก็บอกเธอแล้วเรามีเวลาเหลือเฟือ แต่เธอดูแล้วไม่สนใจเรื่องพวก
นี้จริงๆ เธอลองเสื้อเชิตของผู้หญิงตัวนึง แล้วถามผมว่าเข้ากับเธอไหม
ตายหล่ะ คำถามยอดฮิตเลย ผมเพิ่งอ่านไอ้กระทู้นึงเรื่องเก้าคำอันตราย
ของผู้หญิงไปเอง ผมก็เลยอืมมม บอกไปว่า yes แค่นั้นจริงๆ เธอยิ้ม
แล้วซื้อเสื้อตัวนั้น แล้วเราก็ฝากของไว้ในล็อคเกอร์ของห้องสมุด
แล้วเข้าไปอ่านหนังสือกัน แต่เพราะมันเปนครั้งที่สองแล้วที่เรามา
ที่นี้ ผมเลยยุ่งอยู่กับการหาหนังสือของผม เธอก็หาของเธอไป
แล้วเรามานั่งอ่านด้วยกัน คุยกันไปเรื่อยๆ นั่งขำกันอยู่สองคน
ผมให้เธอบอกสามสิ่งที่เธอชอบมา เธอไม่ยอมบอกเธอบอกว่า
ท่าเธอบอกผม ผมก็จะไปหามาให้เธออีก เหมือนตอนหนังสือ
คราวก่อน แล้วเธอก็ยิ้ม ผมก็เลยถามว่าแล้วไม่ชอบหรอ เธอ
ก็ตอบว่า ชอบสิ แต่เธอรู้สึกไม่ค่อยดี ที่ผมคอยแต่ทำโน่นทำนี้
ให้เธอฝ่ายเดียว เธอก็ถามผมมั้งว่าผมหล่ะชอบอะไร ผมก็บอก
กลับไป ก็ชอบมีเพื่อนมานั่งอ่านหนังสือด้วยไง เธอก็พยักหน้า
และบอกผมว่า อืมมม เธอหน่ะมักถูกเพื่อนๆบอกว่าเปนคนแปลกๆ
เธอไม่ชอบแบบที่เพื่อนๆชอบ เธอไม่ชอบไอศกรีม เธอเปนมังสวิรัต
เธออ่านหนังสือภาษาอังกฤษ และอื่นๆอีกเยอะ เธอชอบน้ำมะนาว
ผมจะจำให้ขึ้นใจไปเลย ผมก็เลยบอกเธอว่าโอเค งั้นอ่านหนังสือเสร็จ
ไปกินน้ำมะนาวกัน เธอยิ้มแล้วพลักไหล่ผม บอกนี้ไงสาเหตุที่เธอ
ไม่อยากให้ผมรู้ เพราะผมรู้ทีไร ผมก็ตามใจเธอทุกที อืมแปลกเนาะ
มีคนมาตามใจก็ไม่ชอบ อีก แปลกจริงๆ แต่ก็น่ารักดี

Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on May 01, 2010, 05:35:20 AM
เหตุการทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้ดี มันควรเปนวันที่ผมมีความสุข
ก็เจงๆนะผมมีความสุขมากวันนี้เรารู้จักกันมากขึ้นไปเรื่อยๆ แต่
สิ่งที่ผมไม่ได้คิดมันเกิดขึ้นต่อมา ผมให้เธอดูรูปในกล้องของผม
แต่ผมลืมย้ายรูปๆนึงออกจากไฟล มันเป็นรูปคนๆนึงที่ผมเคยชอบ
ซรึ่งตอนนี้เราไม่ได้เปนอะไรกันแล้วจริงๆ เพราะเธอก็ชอบคนอื่น
ที่ไม่ใช่ผม ผมปลงไปแล้วเรื่องนี้ Aเหนรูปนั้นแล้วถาม ว่านี้แฟนหรอ
ผมเหวอ ทันที อืมก็เกือบๆ ผมเลยบอกเธอไปว่า เคยนะแต่คงไม่ใช่
แล้ว ผมบอกเธอว่า ผมหน่ะมันน่าเบื่อไร้สาระแล้วก็น่ารำคาญเกินไป
เธอก็บอกไม่นะ ท่าผมเปนขนาดนั้นแฟนเก่าเธอคงยิ่งกว่า แฟนเก่า?

เธอหยิบรูปของผู้ชายคนที่ว่านี้ให้ผมดู ให้ตายดิ้น มันเป็นรูปเด็กผู้ชาย
ในชุดคอมแบตของบุนเดสแวร์ ใช่แล้ว เขาเป็นทหารเกณนั้นเอง
ตอนนี้เขาอยู่ที่โคโซโว ประเทศเล็กๆในยุโปรตะวันออกที่สนธิสัญญา
นาโต้ยังมีหน่วยทหารของยุโรปรักษาความมั่นคงของประเทศนี้อยู่
ผช็อคนะตอนนั้นผมเทียบหมอนี้ไม่ได้เลย แมร่งทั้งหล่อทั้งแมน
ผมไม่ได้ตั้งใจอยากจะรู้เท่าไหร แต่เธอบอกว่าพวกเขาเลิกกัน ใน
ช่วงสัปดาห๋ก่อนวาเลนไทน์ ผมไม่ได้สังเกตหน้าเธอตอนนั้น ผมก็
บอกทำไมมันเศร้าจัง แล้วเลิกเพราะอะไรหล่ะผมไม่น่าถามนะคำถามนี้
ผมไม่น่าถามจริงๆ ผมหันมามองเธอเธอนิ่งๆมองจ้องที่รูปใบนั้น
ผมไม่เคยเหนเธอเปนแบบนี้มาก่อน เธอเงียบไปน้ำตาเหมือนจะไหล
นี้ไม่ใช่Aคนที่ผมเคยเหนมาก่อน เธอเหมือนจะร้องไห้ ทั้งๆที่เมื่อก่อน
ผมไม่เคยเหนด้านนี้ของเธอก็เลยไม่รู้ ปรกติเธอจะมีแต่รอยยิ้ม

ผมตกใจหน้าผมซีดไปเลย เธอเงยหน้ามามองผมทำเหมือนฝืนจะยิ้ม
แล้วบอกว่า He want to be in the army,and he don t want to
put me through it ผมไม่อยากรู้ที่เหลือผมเลยบอกเธอว่า เขา
คงเปนคนดีมากสินะ เธอไม่ได้ตอบอะไรผม เธอเกบรูปเข้ากระเป๋า
แล้วทำเปนยิ้มอีกครั้ง ผมจับใจความได้เองและพอรู้ว่า เขาคนนั้น
คงอยากจะอยู่ต่อกับกองทัพเลยไม่อยากให้เธอที่กำลังเรียนอยู่
ต้องมาคอยยกังวลถึง ต้องมาคอยเปนห่วง ผมยิ่งรู้จักเธอ ก็ยิ่ง
ทำให้ผมรู้สึกเหมือนผมไม่รู้จักเธอเลย ผมไม่เคยเหนเธอเปนแบบ
นี้ ไม่เคยเหนเธอนิ่ง แล้วเหมือนจะร้องไห้แบบนี้มาก่อน

ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ผมสนใจว่าเธอยังรักเขาอยู่รึปล่าว ปัญหาไม่ได้
อยู่ที่ตอนนี้เธอคิดกับผมยังไง ผมมองย้อนกลับมาดูตัวเองว่าตอนนี้
เวลานี้ ผมอยู่ที่นี้ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน ผมอยู่ที่นี้แค่เวลาสั้นๆ
ผมอาจลืมนึกถึงจุดๆนี้ไป ไม่สิผมนึกมาตลอด แต่ผมไม่เคยเคร์
ไม่เคยสนจนเหนสภาพของเธอวันนี้ ผู้หญิงที่ผมคิดว่าคงมีแต่ความสุข
ในชีวิตเธอ นั่งจ้องนิ่งไปที่รูปถ่ายใบนึง เหมือนจะร้องไห้ และเปน
ครั้งแรก ที่ผมเหนเธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ผมมันเห็นแก่ตัว ที่ไม่เคย
คิดด้านของเธอมาก่อน ประวัติศาสตร์มันเกือบจำซ้ำรอยเดิม ทั้งของ
เธอและของผม ผมเองเคยเปนแบบนี้มาก่อน เรื่องมันยาว แต่บอกได้
เลย เชื่อผมเถอะมันไม่ได้จบสวยหรุนัก มันเจ็บแทบตายเลย มันเป็น
สาเหตหนึ่งที่พลักผมให้หนีมาอยู่นี้ให้ไวที่สุดนี้หล่ะ ที่ผมบอกว่ามัน
เกือบจะซ้ำรอย มันอาจเป็นการด่วนสรุปไปของผมก็ได้ แต่เธอพุดเรื่อง
นี้กับผม มันคิดได้สองแบบ ท่าผมเข้าข้างตัวเองนั้นก็หมายความว่าเธอ
เริ่มมีใจให้ผมเลยกล้าบอกเรื่องแบบนี้ อีกมุมนึง ผมกลายไปเปนเพื่อนสนิท
ของเธอไปแล้วเธอจึงเชื่อใจผม พอที่จะบอก แต่ไอ้เรื่องนี้ไม่สำคัญกับ
ผมเลยเทียบกับความรู้สึกของเธอ ความสุขของผมมันไม่สำคัญเลย
เทียบกับเธอ ผมยอมได้ทุกอย่างขอแค่อย่าให้เธอเปนแบบวันนี้อีก

อยากให้มองจากมุมลึกๆมุมนึง ว่าท่าสมมุติเรื่องนี้มันไปได้สวยจน
ผมกับเธอเปนแฟนกันจริงๆ ซึ่งผมบอกได้เลยโอกาศมันเกินครึ่งมา
แล้ว แล้วจนวันนึงผมต้องกลับไปไทย ไปเผชิญหน้ากับความเปนจริง
ของชีวิตผม ชีวิตที่ผมหนีให้ตายก็หนีไม่พ้น ผมมีหน้าที่มีความฝันให้
ตาม ความฝันที่มันคงไม่ต่างอะไรนัก จากแฟนเก่าของเธอ และไม่
รู้ว่าชีวิตนี้จะมีโอกาศได้กลับไปเจอเธออีกไหม มันเจ็บนะ เจ็บมาก
กับความไม่แน่ไม่นอนของชีวิต มันทรมานมากกว่าการ ฆ่ากันให้ตาย
ซึ่งๆหน้าเสียอีก แต่ในตอนที่คุยกับเธอนั้นผมยังไม่ได้คิดเรื่องนี้หรอก

ผมยังช็อคและพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย พยายามหาอะไรที่ทำให้เธอ
กลับมายิ้มอีกรอบ แต่ดูแล้วมันแทบไม่มีทางเลย เธอซึมไปกับหนัง
สือ ผมเลยหยิบหนังสือแล้วบอกเธอว่าไปกินน้ำมะนาวกันดีกว่า เธอ
ฝืนยิ้ม แล้วคว้าหนังสือสองเล่มที่จะเอาไปอ่าน เราเดินออกมาจาก
ห้องสมุด ผมไม่ทันได้สังเกตท้องฟ้า เราซื้อน้ำมะนาว ขอบอกว่าแพง
บรมเลยหล่ะ แต่ผมไม่เคยลืมสัญญาที่เราให้กันไว้ ว่าครั้งต่อมาผมต้อง
ออกเเงินให้เธอ ผมรีบคว้าเงินชิงจ่ายตัเหน้าเธอ เธอยิ้มอีกหล่ะ แต่มัน
ก็ดูเปนยิ้มที่หมองๆ ผมก็หมองไม่แพ้กับเธอ ไม่ใช่ว่าค่าน้ำมะนาวมันแพง
หรอกนะ แต่ให้ตายเหอะ ผมไม่สบายใจเลยที่เหนเธอเปนแบบนี้ เราเดิน
กันไปคุยกันไป แต่มันก็ดูไม่ค่อยจะสนุกเท่าไหร่ จนจะถึงป้ายรถเมล์
ฝนก็เทตกลงมา เข้ากับบรรยากาศมาก ผู้คนเริ่มหลบเข้าร่มกันแล้ว มัน
ก็ตกไม่หนักหรอกนะ แต่มันก็คงทำให้เปนหวัดเอาได้หล่ะ ผมหน่ะใส่แค่
เสื้อยืด ผมจูงมือเธอไปที่ป้ายรถเมล์ และคนก็เยอะเหลือเกิน เหมือนไอ้วัน
เกิดเธอเเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนไม่มีผิด ที่มันแคบ ผมให้เธอหลบเข้าไปใน
ร่มให้ได้ก่อน ผมนะ เดินออกมารับฝนเต็มๆ ตอนนั้นผมก็เฮริทนะ ไม่รู้
เปนบ้าอะไรด้วย คงอยากเปนพระเอกเอ็มวีหล่ะมั้ง เธอเคาะกระจกแล้ว
บอกให้เข้ามาหลบสะ ผมส่ายหน้า เธอเดินออกมาจูงมือผมกลับเข้าไป
ในร่ม เรายืนติดกันแต่ผมไม่กล้ามองหน้าเธอ ผมไม่อยากให้เธอเหนว
แววตาตอนนั้นเลย แววตาผมมันคงบอกทุกสิ้งที่ผมคิดกับเธอไปจนหมด

เธอบอกผมว่าแล้วผมจะกลับบ้านยังไงหล่ะท่าฝนตก ผมบอกเธอว่า
ผมจะรอจนกว่ารถเมล์ของเธอจะมาแล้วจะกลับไปทั้งอย่างนี้หล่ะ
เธอส่ายหน้าแล้วบอก ผมบ้าหรือปล่าว เดียวก็ไม่สบายตอนวันหยุด
ยาวหรอก ผมยักไหล่ เธอยิ้มแล้วบอกว่า ท่าไม่สบายอาทิตย์หน้า
ใครจะเอาหนังสือมาคืนกับเธอหล่ะ เธอบอกเธออ่านหนังสือสี่ร้อย
หน้าวันเดียวก็จบแล้ว ผมก็ยิ้ม แล้วบอกว่าต่อให้ผมไม่สบายแค่ไหน
ท่ามีเพื่อนมาห้องสมุดกับผม ผมก็จะฝืนมา เรายืนนิ่งไม่ได้พูดอะไร
กันเธอพยายามชวนผมคุย แต่ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร บรรยากาศมันเปลี่ยน
ไปเลยจริงๆ ผมอธิบายไม่ถูก จนรถเมล์ของเธอมาผมกอดเธอ กอดในที่
นี้คือการกอดแบบบอกลาธรรมดา ในฐานะที่ยังเปนเพื่อน เพราะเธอ
ยังไม่รู้หรอกว่าผมคิดยังไงกับเธอ เพราะผมยังไม่ได้บอก

และก็คงไม่คิดว่าจะบอกมันกับเธอเร็วๆนี้ เหตการนี้ทำเอาผมช็อค
ไปจริงๆ ผมไม่ต้องการเห็นเธอเป็นแบบวันนี้อีกเลย รอยยิ้มเดิมมัน
หมองไปทันที ผมต้องการเวลาคิดย้อนไปย้อนมา วันนี้ผมเจ็บ
จริงๆ ไม่รู้ทำไม มันดุแล้วไร้สาระ มันเปนเรื่องที่จบไปแล้วของเธอ
แต่มันกลับทำให้ผมคิดมากแทนเธอไปสะอย่างนั้น ผมไม่กล้าจริงๆ
ไม่กล้าที่จะบอกเธอ กลัวว่าบอกไปแล้วมันจะยิ่งทำให้เหตุการนั้น
แย่ลง สับสนโคตรๆเลยครับวันนี้ แผนการใหญ่ที่ว่าก็คงต้องระงับ
ไว้ก่อน อาทิตย์นี้คงต้องถามใจตัวเองอีกที บอกได้เลยนี้เปนเหตุ
การแรกนับแต่มานี้ที่ทำให้ผมหมองลงไปได้ หมองจริงๆ หมอง
เหมือนเมฆฝนในวันนี้ที่มันไม่รู้มาจากไหน วันนี้มันควรเปนวัน
ที่อากาศดีที่สุดสิ ผมตื่นมาตอนเช้าเปนวันแรกเลย ที่ไม่ต้อง
ใส่เสื้อคลุมไปเรียน แต่มันสอนให้จำไว้แม่นๆอย่างหนึ่งว่าในทุกๆ
เครื่องหมายบวกที่มีบนโลก มักมีเครื่องหมายลบตามมาใกล้ๆเสมอ
สมการง่ายๆของชีวิตจริงไม่อิงนิยาย ผมคือหลักฐานที่มีชีวิตเลย
หล่ะ เปนวันแรกจริงๆที่เกือบจะร้องไห้นับแต่วันที่บินมานี้
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: ~ ♥ หมิวจัง ★☆ Norway#49 ♦ ♫ on May 01, 2010, 05:20:18 PM
สู้ต่อไป ทาเคชิ!!!

อย่าได้ท้อ .. ! :))
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: P@t!p@n NOR#49 on May 01, 2010, 08:11:59 PM
เรื่องนี้

คงเป็นอีกตัวอย่างที่ต้องใช้เวลาตัดสิน

ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: BlackMiracle on May 01, 2010, 08:51:42 PM
โอ้ย ทำไมมันเหมือนนิยายได้ขนาดนี้
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: FeRn Ger[sh]#48 on May 01, 2010, 11:12:31 PM
ฟังดูแล้ว ถ้าถึงขั้นจับไม่จับมือแล้ว โอกาสก็มีมาก เราว่าตอนนี้เค้าแค่บังเอิญไปคิดถึงคนๆนั้นมากกว่า เลยทำให้เป็นแบบนี้

ในฐานะที่นายสนิทกับเค้าแล้วก็ใกล้ชิด แล้วนายก็ทำทุกอย่างให้เค้ามีแต่รอยยิ้ม เราว่าวันนึงเค้าจะต้องหันมาที่นายเป็นคนแรก

เพราะถัดออกมาจากโลกของเค้า เค้าก็มีแต่นาย เพราะงั้นเราว่าโอกาสของนายมีมากพอตัวเลย ก็เทคแคร์เค้าต่อไป ทำตัวเหมือนปกติ

อยู่มาแป๊บเดียวเอง นานไปกว่านี้ซักพัก เรามั่นใจว่ามันจะมีการพัฒนา คนเยอรอ่ะ โดยเฉพาะผู้หญิง เห็นอย่างนั้นเป็นคนอ่อนไหวจะตาย

แต่ปัญหาอยู่ที่ นายคิดว่า ถ้านายได้เป็นแฟนเค้า แล้วนายว่านายจะรักษาควาสัมพันธ์ไปได้นานแค่ไหน? ก่อนเรากลับไทย

เรายังต้องเลิกเลย เราไม่อยากให้ใครต้องรอ มันจะเจ็บทั้งคู่ แล้วถ้าเกิดไปชอบคนอื่นกัน ก็จะรู้สึกผิดต่อกัน แต่อันนั้นก็ช่างมันเถอะ

นายก็ทำปัจจุบันของนายให้ดีละกัน เราว่าจากที่เล่ามาเราว่าตอนนี้เป็นพื่อนสนิทกันอยู่ แต่หลังจากนี้...ก็อยู่ที่นาย ค่อยๆแสดงออกมันไปทีละนิด

เราเชื่อว่านายทำได้ เพราะนายหวังดีกับเค้า และเป็นสุภาพบุรุษ ในฐานะเด็กAFS เยอรเหมือนกัน ก็เป็นกำลังใจให้ละักัน
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: POOM GER#49SH on May 01, 2010, 11:53:45 PM
เออเรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาเว้ย ลองๆดูท่าทีของเค้า
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: Pairaya SH on May 02, 2010, 07:01:40 PM
นิยายชัดชัด
แต่...สู้วะ!
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: ::NewLy..,GER[SH]#49~:: on May 02, 2010, 08:38:17 PM
krisdi eiii - -*
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on May 03, 2010, 03:32:11 AM
ma sa tem yod lei na meung E new Buam -*-
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: ~ ♥ หมิวจัง ★☆ Norway#49 ♦ ♫ on May 04, 2010, 11:23:48 AM
ฟังดูแล้ว ถ้าถึงขั้นจับไม่จับมือแล้ว โอกาสก็มีมาก เราว่าตอนนี้เค้าแค่บังเอิญไปคิดถึงคนๆนั้นมากกว่า เลยทำให้เป็นแบบนี้

ในฐานะที่นายสนิทกับเค้าแล้วก็ใกล้ชิด แล้วนายก็ทำทุกอย่างให้เค้ามีแต่รอยยิ้ม เราว่าวันนึงเค้าจะต้องหันมาที่นายเป็นคนแรก

เพราะถัดออกมาจากโลกของเค้า เค้าก็มีแต่นาย เพราะงั้นเราว่าโอกาสของนายมีมากพอตัวเลย ก็เทคแคร์เค้าต่อไป ทำตัวเหมือนปกติ

อยู่มาแป๊บเดียวเอง นานไปกว่านี้ซักพัก เรามั่นใจว่ามันจะมีการพัฒนา คนเยอรอ่ะ โดยเฉพาะผู้หญิง เห็นอย่างนั้นเป็นคนอ่อนไหวจะตาย

แต่ปัญหาอยู่ที่ นายคิดว่า ถ้านายได้เป็นแฟนเค้า แล้วนายว่านายจะรักษาควาสัมพันธ์ไปได้นานแค่ไหน? ก่อนเรากลับไทย

เรายังต้องเลิกเลย เราไม่อยากให้ใครต้องรอ มันจะเจ็บทั้งคู่ แล้วถ้าเกิดไปชอบคนอื่นกัน ก็จะรู้สึกผิดต่อกัน แต่อันนั้นก็ช่างมันเถอะ

นายก็ทำปัจจุบันของนายให้ดีละกัน เราว่าจากที่เล่ามาเราว่าตอนนี้เป็นพื่อนสนิทกันอยู่ แต่หลังจากนี้...ก็อยู่ที่นาย ค่อยๆแสดงออกมันไปทีละนิด

เราเชื่อว่านายทำได้ เพราะนายหวังดีกับเค้า และเป็นสุภาพบุรุษ ในฐานะเด็กAFS เยอรเหมือนกัน ก็เป็นกำลังใจให้ละักัน

โคดคมเรยอ้ะ !!
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: FeRn Ger[sh]#48 on May 04, 2010, 04:04:43 PM
ขอบใจเรพบนอ่า ฮ่าๆๆ
Title: Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
Post by: >>Krit<<"Right in Wolfsburg" on May 04, 2010, 07:49:41 PM
ขอบใจนะ แต่ทำไรไม่ถูกเลยอ่า
ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ไปเรียนจะเปนไง
นั่งคิดเรื่องนี้ย้อนไปมาตลอด มอง
ไม่เห็นทางเลย ขอแค่ให้ทุกอย่าง
มันเหมือนเดิมก็พอแล้ว